ทัวร์วันแม่
โปรแกรม ทัวร์วันแม่ พาแม่เที่ยว ไหว้พระ ล่องเรือ วันเดอร์ฟูล เพิร์ล
วันแม่ 12 สิงหาคม 2561 โปรแกรมเที่ยว ทัวร์วันแม่ ปีนี้ สุดพิเศษ คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม พามแม่มา ทัวร์วันแม่ โปรแกรมทัวร์ ท่องเที่ยวพิเศษ วันแม่ พาแม่เที่ยว ล่องเรือ ไหว้พระ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอพร วัดดัง วัดริมเจ้าพระยา 3 วัด กับ วันเดอร์ฟูลเฟิร์ล ครูซส์ เรือสำราญหรู ใหญ่ 5 ดาว พร้อมอาหารเช้า และ กลางวัน ชากาแฟ น้ำสมุนไพร บริการบนเรือ สำราญ เจ้าพระยา
12 สิงหา พาแม่เที่ยว ทัวร์วันแม่ ล่องเรือไหว้พระ ขอพร วัดดัง ริม เจ้าพระยา
โปรแกรมพิเศษ ทัวร์วันแม่ ล่องเรือวันเดอร์ฟูลเพิร์ล ไหว้พระ 3 วัด “เรือวันเดอร์ฟูล เพิร์ล เชิญชวนคุณแม่และครอบครัว ทำบุญเสริมสร้างสิริมงคล ไหว้พระศักดิ์สิทธิ์ แม่น้ำเจ้าพระยา ”
วันอาทิตย์ที่ 12 สิงหาคม 2561 เวลา 07.30-16.00 น.
โปรแกรม ทัวร์วันแม่ ล่องเรือ ไหว้พระ
07.30 น. พร้อมกัน ณ จุดนัดพบบริเวณท่าเทียบเรือ ริเวอร์ซิตี้ สี่พระยา
08.00 น. ขอต้อนรับทุกท่านบนเรือสำราญ วันเดอร์ฟูลเพิร์ล
เรือเริ่มออกเดินทางในบรรยากาศยามเช้า ชื่นชมกับธรรมชาติสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา สัมผัสความงดงามมหัศจรรย์ สถาปัตยกรรมทางประวัติศาสตร์อันลือชื่อแห่งหนึ่งของโลก ผ่อนคลายกับสายน้ำแห่ง “พระราชา” ที่สำคัญต่อวิถีชีวิตคนไทย พร้อมมัคคุเทศก์บรรยายข้อมูลที่น่าสนใจ และดูแลตลอดเส้นทาง
**อาหารว่างยามเช้า
08.30 น. เดินทางถึงท่าเทียบเรือ “วัดกัลยาณมิตร” แวะนมัสการ “พระพุทธไตรรัตนนายก”
หลวงพ่อโต “ซำปอกง” พระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งพุทธศาสนิกชนชาวไทยเชื้อสายจีนเคารพนับถือ เพื่อความเป็นสิริมงคล และโชคดี
-เดินทางถึง ศาลเจ้าเกียนอันเกง ของชาว ฮกเกี๊ยน กราบสักการะ พระโพธิสัตว์กวนอิม
10.30 น. เดินทางถึงท่าเทียบเรือ “วัดอรุณราชวราราม” เยี่ยมชม พระปรางค์องค์ใหญ่อายุกว่า 200 ปี สร้าง
ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นสัญลักษณ์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เชิญพุทธศาสนิกชน อธิษฐานจิตและสมาธิ เพื่อเวียนเทียนเป็นกุศลผลบุญอันยิ่งใหญ่ต่อไปในภาคหน้า
11.30 น. พร้อมกันบนเรือสำราญ “วันเดอร์ฟูล เพิร์ล” เชิญแขกผู้มีเกียรติ ทุกท่านร่วมรับประทานอาหารกลางวันอันเลิศรสแบบบุฟเฟ่ต์ไทยและอินเตอร์เนชั่นแนล พร้อมล่องเรือ
13.30 น. เดินทางถึงท่าเทียบเรือ วัดเทวราชกุญชรวรวิหาร พระอารามหลวง
- กราบสักการะ “พระพุทธเทวราชปฏิมากร” พระพุทธรูปปางมารวิชัย และชม “จิตรกรรมฝาพนัง” ภายในพระอุโบสถ แวะเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ ไม้สักทอง 479 ปี
**อาหารว่างยามบ่าย
16.00 น. เสร็จกิจกรรมไหว้พระ 3 วัด ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เดินทางถึงท่าเทียบเรือ ริเวอร์ซิตี้ สี่พระยา
โดยสวัสดิภาพ และความประทับใจ รับความสุข และอิ่มบุญกันถ้วนหน้า
ทัวร์วันแม่ ราคา
ผู้ใหญ่ 2000 บาท
เด็ก 1500 บาท
*ราคาเด็ก: อายุต่ำกว่า 9 ปี
ราคานี้ได้รวม
07.30 น. พร้อมกัน ณ จุดนัดพบบริเวณท่าเทียบเรือ ริเวอร์ซิตี้ สี่พระยา
08.00 น. ขอต้อนรับทุกท่านบนเรือสำราญ วันเดอร์ฟูลเพิร์ล
เรือเริ่มออกเดินทางในบรรยากาศยามเช้า ชื่นชมกับธรรมชาติสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา สัมผัสความงดงามมหัศจรรย์ สถาปัตยกรรมทางประวัติศาสตร์อันลือชื่อแห่งหนึ่งของโลก ผ่อนคลายกับสายน้ำแห่ง “พระราชา” ที่สำคัญต่อวิถีชีวิตคนไทย พร้อมมัคคุเทศก์บรรยายข้อมูลที่น่าสนใจ และดูแลตลอดเส้นทาง
**อาหารว่างยามเช้า
08.30 น. เดินทางถึงท่าเทียบเรือ “วัดกัลยาณมิตร” แวะนมัสการ “พระพุทธไตรรัตนนายก”
หลวงพ่อโต “ซำปอกง” พระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งพุทธศาสนิกชนชาวไทยเชื้อสายจีนเคารพนับถือ เพื่อความเป็นสิริมงคล และโชคดี
-เดินทางถึง ศาลเจ้าเกียนอันเกง ของชาว ฮกเกี๊ยน กราบสักการะ พระโพธิสัตว์กวนอิม
10.30 น. เดินทางถึงท่าเทียบเรือ “วัดอรุณราชวราราม” เยี่ยมชม พระปรางค์องค์ใหญ่อายุกว่า 200 ปี สร้าง
ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นสัญลักษณ์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เชิญพุทธศาสนิกชน อธิษฐานจิตและสมาธิ เพื่อเวียนเทียนเป็นกุศลผลบุญอันยิ่งใหญ่ต่อไปในภาคหน้า
11.30 น. พร้อมกันบนเรือสำราญ “วันเดอร์ฟูล เพิร์ล” เชิญแขกผู้มีเกียรติ ทุกท่านร่วมรับประทานอาหารกลางวันอันเลิศรสแบบบุฟเฟ่ต์ไทยและอินเตอร์เนชั่นแนล พร้อมล่องเรือ
13.30 น. เดินทางถึงท่าเทียบเรือ วัดเทวราชกุญชรวรวิหาร พระอารามหลวง
- กราบสักการะ “พระพุทธเทวราชปฏิมากร” พระพุทธรูปปางมารวิชัย และชม “จิตรกรรมฝาพนัง” ภายในพระอุโบสถ แวะเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ ไม้สักทอง 479 ปี
**อาหารว่างยามบ่าย
16.00 น. เสร็จกิจกรรมไหว้พระ 3 วัด ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เดินทางถึงท่าเทียบเรือ ริเวอร์ซิตี้ สี่พระยา
โดยสวัสดิภาพ และความประทับใจ รับความสุข และอิ่มบุญกันถ้วนหน้า
ทัวร์วันแม่ ราคา
ผู้ใหญ่ 2000 บาท
เด็ก 1500 บาท
*ราคาเด็ก: อายุต่ำกว่า 9 ปี
ราคานี้ได้รวม
- ล่องเรือวันเดอร์ฟูลเพิร์ล
- อาหารเช้า
- อาหารกลางวันแบบบุฟเฟ่ต์
- อาหารว่างช่วงบ่าย
- เครื่องดื่มสุมนไพร
- มัคคุเทศก์ - MC
- กิจกรรมบนเรือ พร้อมรับรางวัลพิเศษ
ทัศนียภาพ ความสวยงาม ของ สถานที่ แหล่งท่องเที่ยว ริมน้ำ เจ้าพระยา
โรงแรม ริมน้ำเจ้าพระยา 5 ดาว
ความสวยงาม ของสถาปัตยกรรม สิ่งก่อสร้าง ของ โรงแรม รีสอร์ท ริมน้ำ เจ้าพระยา ทำให้เกิดทัศนีย์ภาพ สวยงาม คู่ แม่น้ำเจ้าพระยา อาทิเช่น
โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน โรงแรมแมนดาริน โอเรียลเต็ล โรงแรมเพนนินซูลา โรงแรมแชงกรี-ลา
โบสถ์ซางตาครู้ส วัดซางตาครู้ส หรือ วัดกุฎีจีน
วัดซางตาครู้สเป็น คริสต์ศาสนสถาน เก่าแก่ อายุนับร้อยปี ที่อยู่คู่กับชุมชนกุฎีจีนเก่าแก่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณด้านหน้าวัด หันออกสู่ แม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณที่ตั้งของ วัดซางตาครู้ส อยู่ใกล้กับพระราชวังเดิม สมัยธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชพระราชทานที่ดินให้แก่ชาวโปรตุเกสซึ่งร่วมทำการศึกต่อต้านพม่าจนได้รับชัยชนะ ก่อตั้งโดย นักบวชชาวโปรตุเกส โบสถ์ซางตาครู้ส มีสถาปัตยกรรมที่เป็นโดมแบบอิตาลีที่โดดเด่น คล้ายคลึงกับ ยอดโดมมหาวิหารฟลอเรนซ์ ที่งดงามคู่ แม่น้ำเจ้าพระยา.
สะพานพุทธ
สะพานพุทธ หรือ สะพานพระพุทธยอดฟ้า หรืออีกชื่อที่เป็นทางการ สะพานปฐมบรมราชานุสรณ์ สะพานพระพุทธยอดฟ้า เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่เชื่อมการคมนาคมติดต่อระหว่างฝั่งพระนครกับฝั่งธนบุรีของกรุงเทพมหานคร ที่ปลายถนนตรีเพชร แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กับปลายถนนประชาธิปก แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี ปัจจุบันสะพานแห่งนี้อยู่ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวงชนบท สะพานพระพุทธยอดฟ้า เป็นสะพานที่สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) เมื่อปี พ.ศ. 2472 เนื่องในโอกาสสถาปนากรุงเทพมหานครครบ 150 ปี และโปรดเกล้าฯ ให้มีพระราชพิธีฉลองพระนครครบ 150 ปี ด้วยพระราชดำริที่จะสร้างสิ่งที่เป็นอนุสรณ์ถึงความรำลึกในพระกรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ผู้ทรงสถาปนากรุงเทพมหานคร
วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร
วัดกัลยามิตร หรือชื่อเต็ม วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร หรือ "วัดกัลยา" วัดหลวงพ่อโต ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งธนบุรี บริเวณปากคลองบางกอกใหญ่ฝั่งใต้ เจ้าพระยานิกรบดินทร์ (โต) ต้นสกุลกัลยาณมิตร ว่าที่สมุหนายก ได้อุทิศบ้านและที่ดินบริเวณใกล้เคียง ซึ่งแต่เดิมเป็นหมู่บ้านที่มีภิกษุจีนพำนักอยู่ และเรียกกันต่อมาว่า "หมู่บ้านกุฎีจีน" สร้างเป็นวัดขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๓๖๘ และน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระอารามหลวง พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ พระราชทานนามว่า "วัดกัลยาณมิตร" และทรงสร้างพระวิหารหลวงและพระประธานพระราชทาน เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ชื่อ พระพุทธไตรรัตนนายก หรือ หลวงพ่อโต ด้วยมีพระประสงค์จะให้เหมือนกรุงเก่า คือมีพระโตอยู่นอกกำแพงเมือง อย่างเช่นวัดพนัญเชิง หลวงพ่อโต วัดกัลยามิตร เป็นที่เคารพสักการะอย่างสูง โดยเฉพาะในหมู่ชาวจีน เรียกชื่อแบบจีนว่า ซำปอฮุดกง หรือ ซำปอกง วัดกัลยามิตร เป็นวัดเดียวในประเทศไทยที่มีพระประธานเป็นพระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังแสดงพุทธประวัติ และแสดงชีวิตชาวบ้านในสมัยรัชกาลที่ ๓
วัดอรุณราชวราราม หรือ วัดแจ้ง
วัดอรุณ, วัดอรุณราชวราราม หรือที่นิยมเรียกกันในภาษาพูดว่า วัดแจ้ง หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า วัดอรุณ เป็นวัดโบราณ สร้างในสมัยอยุธยา ว่ากันว่าเดิมเรียกว่า วัดมะกอก และกลายเป็นวัดมะกอกนอกในเวลาต่อมา เพราะได้มีการสร้างวัดขึ้นอีกวัดหนึ่งในตำบลเดียวกัน แต่อยู่ในคลองบางกอกใหญ่ ชาวบ้านเรียกวัดที่สร้างใหม่ว่า วัดมะกอกใน (วัดนวลนรดิศ) แล้วจึงเรียกวัดมะกอกซึ่งอยู่ปากคลองบางกอกใหญ่ว่า วัดมะกอกนอก ส่วนเหตุที่มีการเปลี่ยนชื่อเป็นวัดแจ้งนั้น เชื่อกันว่า เมื่อ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงตั้งราชธานีที่กรุงธนบุรีใน พ.ศ. 2310 ได้เสด็จมาถึงหน้าวัดนี้ตอนรุ่งแจ้ง จึงพระราชทานชื่อใหม่ว่า วัดแจ้ง แต่ความเชื่อนี้ไม่ถูกต้อง เพราะเพลงยาวหม่อมภิมเสน วรรณกรรมสมัยอยุธยาที่บรรยายการเดินทางจากอยุธยาไปยังเพชรบุรี ได้ระบุชื่อวัดนี้ไว้ว่าชื่อวัดแจ้งตั้งแต่เวลานั้นแล้ว เมื่อในสมัยรัตนโกสินทร์ รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร ได้เสด็จมาประทับที่พระราชวังเดิม และได้ทรงปฏิสังขรณ์วัดแจ้งใหม่ทั้งวัด แต่ยังไม่ทันสำเร็จก็สิ้นรัชกาลที่ 1 สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทรได้เสด็จขึ้นครองราชสมบัติเป็นพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระองค์ได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์วัดแจ้งต่อมา และพระราชทานนามใหม่ว่า “วัดอรุณราชธาราม”
พระบรมหาราชวัง วัดพระแก้ว
พระบรมมหาราชวัง ทิวทัศน์ สวยงาม ตระการตา คู่ ริมน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา วัดพระแก้ว หรือ พระราชวังพระนคร เป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์สมัยรัตนโกสินทร์ ตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ตั้งอยู่ที่แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ปัจจุบัน พระบรมมหาราชวัง เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับ ของโลก ที่นักท่องเที่ยว นิยมมา เมื่อมาถึงประเทศไทย นักท่องเที่ยว ต้องมา เที่ยวพระบรมหาราชวัง หรือ วัดพระแก้ว แห่งนี้ พระบรมมหาราชวัง วัดพระแก้ว ตั้งอยู่พื้นที่ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร โดยมีอาณาเขตติดต่อกับสถานที่สำคัญลักษณะเรียงตามเข็มนาฬิกาดังนี้ ทิศเหนือ ติดกับท้องสนามหลวง ทิศตะวันออก ติดกับกระทรวงกลาโหม ทิศใต้ ติดกับ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร หรือ วัดโพธิ์ ทิศตะวันตก ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา
วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร
วัดระฆังโฆสิตาราม ชื่อเต็ม วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร หรือ วัดระฆัง,วัดหลวงพ่อโต ตั้งอยู่เลขที่ 250 แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร วัดแห่งนี้เป็นวัดโบราณ สร้างในสมัยอยุธยา เดิมชื่อ วัดบางว้าใหญ่ (หรือบางหว้าใหญ่) ในสมัยธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงสร้างพระราชวังใกล้วัดบางว้าใหญ่ โปรดเกล้าฯ ให้ยกเป็นพระอารามหลวงและเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราช ในสมัยรัตนโกสินทร์ “วัดระฆังโฆสิตาราม” นอกจากเป็นเพราะขุดพบระฆังที่วัดนี้และเพื่อฟื้นฟูแบบแผนครั้งกรุงศรีอยุธยาที่มีวัดชื่อวัดระฆังเช่นกัน ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อ “วัดระฆังโฆสิตาราม” ภายในวัด มีหอพระไตรปิฎกซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามมาก เคยเป็นพระตำหนักและหอประทับนั่งของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชขณะทรงรับราชการในสมัยธนบุรี และโปรดเกล้าฯ ให้รื้อมาถวายวัด เมื่อเสด็จขึ้นครองราชสมบัติแล้ว มีพระราชประสงค์จะบูรณปฏิสังขรณ์ให้สวยงามเพื่อเป็นหอพระไตรปิฎก วัดระฆัง เป็น วัดท่องเที่ยว ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีประวัติศาสตร์คู่คนไทยมานมนาน.
สะพานพระราม 8
สะพานพระราม 8 เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งที่ 13 ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีแนวสายทางเชื่อมต่อกับทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณโรงงานสุราบางยี่ขัน เขตบางพลัด บรรจบกับปลายถนนวิสุทธิกษัตริย์ ใกล้กับธนาคารแห่งประเทศไทย เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร สะพานพระราม 8 นี้เกิดจากพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 พระองค์มีพระราชดำริให้กรุงเทพมหานครก่อสร้าง สะพานข้าม แม่น้ำเจ้าพระยา เพิ่มอีก 1 แห่ง เพื่อบรรเทาการจราจรบน สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า รองรับการเดินทางเชื่อมต่อระหว่างฝั่งพระนครกับฝั่งธนบุรี และเป็นจุดเชื่อมต่อโครงการพระราชดำริตามแนวจตุรทิศ สะพานพระราม 8 ช่วยเชื่อมการเดินทางระหว่างฝั่งพระนครกับฝั่งธนบุรีให้สะดวกสบายขึ้น ซึ่งจะช่วยระบายรถบนสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าได้ถึง 30% และบนสะพานกรุงธน อีก 20% และยังสามารถลดมลพิษทางอากาศบริเวณในเมือง โดยเริ่มเปิดให้ใช้ตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2545 เวลา 7:00 น. เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน.
วัดเทวราชกุญชร (วัดสมอแครง)
วัดแหล่งท่องเที่ยว ริมน้ำเจ้าพระยา ภายในวัดพระกอบด้วย พระอุโบสถ ที่สวยงาม ผนังพระอุโบสถมีภาพจิตรกรรม ผนังด้านข้างทั้ง ๒ ด้าน ภายในอุโบสถ มี พระพุทธเทวราชปฏิมากร พระประธานประจำพระอุโบสถ พระประธานในพระอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปโลหะหล่อลงรักปิดทอง ปางมารวิชัย ฝีมือช่างสมัยทวารวดี ประดิษฐานบนฐานชุกชี หน้าตักกว้าง ๔.๓๕ เมตร สูงตั้งแต่ พระเพลาถึงยอดเปลวรัศมี ๕.๖๕ เมตร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามพระประธานประจำพระอุโบสถ นามว่า “พระพุทธเทวราชปฏิมากร” เมื่อวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๖ ประวัติของพระพุทธรูปองค์นี้ คุณหลวงวรศักดิ์ภูบาล เล่าว่า ในหลวงรัชกาลที่ ๓ ทรงทราบว่า กรุงศรีอยุธยาพบพระทององค์ใหญ่โปรดเกล้าฯ ให้กรมหมื่นพระพิทักษ์เทเวศรไปอัญเชิญลงมายังพระนคร ในกรมได้ทรงต่อแพเชิญพระพุทธรูปองค์ใหญ่ล่องลงมา ครั้งถึงปากคลองเทเวศร์ แพเกิดดื้อฉุดเท่าไรก็ไม่มายังตำหนักแพจึงโปรดเกล้าฯ ให้กรมหมื่นพิทักษ์เทเวศรอัญเชิญพระพุทธรูปนี้ขึ้นที่วัดสมอแครง.พิพิธภัณฑ์สักทอง ซึ่ง อยู่ภายใน วัดสมอแครง (วัดเทวราชกุญชรวรวิหาร) เรือนไม้สักทองหลังนี้ มีลักษณะทรงปั้นหยาประยุกต์ 2 ชั้นกว้าง 16.75 เมตร ยาว 30.15 เมตร ชั้นบนจัดแสดงรูปปั้นหุ่นขี้ผึ้ง (ไฟเบอร์กลาส) เท่าพระองค์จริง ของสมเด็จพระสังฆราช 18 พระองค์ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ และประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ที่อัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา ให้ประชาชนได้สักการบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคล ชั้นล่างจัดแสดงภาพพระประวัติของสมเด็จพระสังฆราชทุกพระองค์ นิทรรศการวัดเทวราชกุญชร และมูลนิธิ ศ.ดร.อุกฤษ มงคลนาวิน บ้านสักทองหลังนี้ มีเสาไม้สักขนาด 2 คนโอบจำนวน 59 ต้นอายุไม้สักที่วิเคราะห์จากวงปีแล้ว มีอายุถึง 479 ปี หรือประมาณสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง และด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ยังมีรูปปั้นพระอินทร์ทรงช้าง 3 เศียร ผลงานออกแบบของพระเทพคุณาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชรองค์ปัจจุบัน เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรกที่จัดแสดงหุ่นขี้ผึ้งสมเด็จพระสังฆราชทั้ง 19 พระองค์ของประเทศไทย เป็นเรือนทรงปั้นหยาที่สร้างด้วยไม้สักทองทั้งหลัง
โรงแรม ริมน้ำเจ้าพระยา 5 ดาว
ความสวยงาม ของสถาปัตยกรรม สิ่งก่อสร้าง ของ โรงแรม รีสอร์ท ริมน้ำ เจ้าพระยา ทำให้เกิดทัศนีย์ภาพ สวยงาม คู่ แม่น้ำเจ้าพระยา อาทิเช่น
โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน โรงแรมแมนดาริน โอเรียลเต็ล โรงแรมเพนนินซูลา โรงแรมแชงกรี-ลา
โบสถ์ซางตาครู้ส วัดซางตาครู้ส หรือ วัดกุฎีจีน
วัดซางตาครู้สเป็น คริสต์ศาสนสถาน เก่าแก่ อายุนับร้อยปี ที่อยู่คู่กับชุมชนกุฎีจีนเก่าแก่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณด้านหน้าวัด หันออกสู่ แม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณที่ตั้งของ วัดซางตาครู้ส อยู่ใกล้กับพระราชวังเดิม สมัยธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชพระราชทานที่ดินให้แก่ชาวโปรตุเกสซึ่งร่วมทำการศึกต่อต้านพม่าจนได้รับชัยชนะ ก่อตั้งโดย นักบวชชาวโปรตุเกส โบสถ์ซางตาครู้ส มีสถาปัตยกรรมที่เป็นโดมแบบอิตาลีที่โดดเด่น คล้ายคลึงกับ ยอดโดมมหาวิหารฟลอเรนซ์ ที่งดงามคู่ แม่น้ำเจ้าพระยา.
สะพานพุทธ
สะพานพุทธ หรือ สะพานพระพุทธยอดฟ้า หรืออีกชื่อที่เป็นทางการ สะพานปฐมบรมราชานุสรณ์ สะพานพระพุทธยอดฟ้า เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่เชื่อมการคมนาคมติดต่อระหว่างฝั่งพระนครกับฝั่งธนบุรีของกรุงเทพมหานคร ที่ปลายถนนตรีเพชร แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กับปลายถนนประชาธิปก แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี ปัจจุบันสะพานแห่งนี้อยู่ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวงชนบท สะพานพระพุทธยอดฟ้า เป็นสะพานที่สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) เมื่อปี พ.ศ. 2472 เนื่องในโอกาสสถาปนากรุงเทพมหานครครบ 150 ปี และโปรดเกล้าฯ ให้มีพระราชพิธีฉลองพระนครครบ 150 ปี ด้วยพระราชดำริที่จะสร้างสิ่งที่เป็นอนุสรณ์ถึงความรำลึกในพระกรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ผู้ทรงสถาปนากรุงเทพมหานคร
วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร
วัดกัลยามิตร หรือชื่อเต็ม วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร หรือ "วัดกัลยา" วัดหลวงพ่อโต ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งธนบุรี บริเวณปากคลองบางกอกใหญ่ฝั่งใต้ เจ้าพระยานิกรบดินทร์ (โต) ต้นสกุลกัลยาณมิตร ว่าที่สมุหนายก ได้อุทิศบ้านและที่ดินบริเวณใกล้เคียง ซึ่งแต่เดิมเป็นหมู่บ้านที่มีภิกษุจีนพำนักอยู่ และเรียกกันต่อมาว่า "หมู่บ้านกุฎีจีน" สร้างเป็นวัดขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๓๖๘ และน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระอารามหลวง พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ พระราชทานนามว่า "วัดกัลยาณมิตร" และทรงสร้างพระวิหารหลวงและพระประธานพระราชทาน เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ชื่อ พระพุทธไตรรัตนนายก หรือ หลวงพ่อโต ด้วยมีพระประสงค์จะให้เหมือนกรุงเก่า คือมีพระโตอยู่นอกกำแพงเมือง อย่างเช่นวัดพนัญเชิง หลวงพ่อโต วัดกัลยามิตร เป็นที่เคารพสักการะอย่างสูง โดยเฉพาะในหมู่ชาวจีน เรียกชื่อแบบจีนว่า ซำปอฮุดกง หรือ ซำปอกง วัดกัลยามิตร เป็นวัดเดียวในประเทศไทยที่มีพระประธานเป็นพระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังแสดงพุทธประวัติ และแสดงชีวิตชาวบ้านในสมัยรัชกาลที่ ๓
วัดอรุณราชวราราม หรือ วัดแจ้ง
วัดอรุณ, วัดอรุณราชวราราม หรือที่นิยมเรียกกันในภาษาพูดว่า วัดแจ้ง หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า วัดอรุณ เป็นวัดโบราณ สร้างในสมัยอยุธยา ว่ากันว่าเดิมเรียกว่า วัดมะกอก และกลายเป็นวัดมะกอกนอกในเวลาต่อมา เพราะได้มีการสร้างวัดขึ้นอีกวัดหนึ่งในตำบลเดียวกัน แต่อยู่ในคลองบางกอกใหญ่ ชาวบ้านเรียกวัดที่สร้างใหม่ว่า วัดมะกอกใน (วัดนวลนรดิศ) แล้วจึงเรียกวัดมะกอกซึ่งอยู่ปากคลองบางกอกใหญ่ว่า วัดมะกอกนอก ส่วนเหตุที่มีการเปลี่ยนชื่อเป็นวัดแจ้งนั้น เชื่อกันว่า เมื่อ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงตั้งราชธานีที่กรุงธนบุรีใน พ.ศ. 2310 ได้เสด็จมาถึงหน้าวัดนี้ตอนรุ่งแจ้ง จึงพระราชทานชื่อใหม่ว่า วัดแจ้ง แต่ความเชื่อนี้ไม่ถูกต้อง เพราะเพลงยาวหม่อมภิมเสน วรรณกรรมสมัยอยุธยาที่บรรยายการเดินทางจากอยุธยาไปยังเพชรบุรี ได้ระบุชื่อวัดนี้ไว้ว่าชื่อวัดแจ้งตั้งแต่เวลานั้นแล้ว เมื่อในสมัยรัตนโกสินทร์ รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร ได้เสด็จมาประทับที่พระราชวังเดิม และได้ทรงปฏิสังขรณ์วัดแจ้งใหม่ทั้งวัด แต่ยังไม่ทันสำเร็จก็สิ้นรัชกาลที่ 1 สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทรได้เสด็จขึ้นครองราชสมบัติเป็นพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระองค์ได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์วัดแจ้งต่อมา และพระราชทานนามใหม่ว่า “วัดอรุณราชธาราม”
พระบรมหาราชวัง วัดพระแก้ว
พระบรมมหาราชวัง ทิวทัศน์ สวยงาม ตระการตา คู่ ริมน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา วัดพระแก้ว หรือ พระราชวังพระนคร เป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์สมัยรัตนโกสินทร์ ตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ตั้งอยู่ที่แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ปัจจุบัน พระบรมมหาราชวัง เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับ ของโลก ที่นักท่องเที่ยว นิยมมา เมื่อมาถึงประเทศไทย นักท่องเที่ยว ต้องมา เที่ยวพระบรมหาราชวัง หรือ วัดพระแก้ว แห่งนี้ พระบรมมหาราชวัง วัดพระแก้ว ตั้งอยู่พื้นที่ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร โดยมีอาณาเขตติดต่อกับสถานที่สำคัญลักษณะเรียงตามเข็มนาฬิกาดังนี้ ทิศเหนือ ติดกับท้องสนามหลวง ทิศตะวันออก ติดกับกระทรวงกลาโหม ทิศใต้ ติดกับ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร หรือ วัดโพธิ์ ทิศตะวันตก ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา
วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร
วัดระฆังโฆสิตาราม ชื่อเต็ม วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร หรือ วัดระฆัง,วัดหลวงพ่อโต ตั้งอยู่เลขที่ 250 แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร วัดแห่งนี้เป็นวัดโบราณ สร้างในสมัยอยุธยา เดิมชื่อ วัดบางว้าใหญ่ (หรือบางหว้าใหญ่) ในสมัยธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงสร้างพระราชวังใกล้วัดบางว้าใหญ่ โปรดเกล้าฯ ให้ยกเป็นพระอารามหลวงและเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราช ในสมัยรัตนโกสินทร์ “วัดระฆังโฆสิตาราม” นอกจากเป็นเพราะขุดพบระฆังที่วัดนี้และเพื่อฟื้นฟูแบบแผนครั้งกรุงศรีอยุธยาที่มีวัดชื่อวัดระฆังเช่นกัน ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อ “วัดระฆังโฆสิตาราม” ภายในวัด มีหอพระไตรปิฎกซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามมาก เคยเป็นพระตำหนักและหอประทับนั่งของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชขณะทรงรับราชการในสมัยธนบุรี และโปรดเกล้าฯ ให้รื้อมาถวายวัด เมื่อเสด็จขึ้นครองราชสมบัติแล้ว มีพระราชประสงค์จะบูรณปฏิสังขรณ์ให้สวยงามเพื่อเป็นหอพระไตรปิฎก วัดระฆัง เป็น วัดท่องเที่ยว ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีประวัติศาสตร์คู่คนไทยมานมนาน.
สะพานพระราม 8
สะพานพระราม 8 เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งที่ 13 ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีแนวสายทางเชื่อมต่อกับทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณโรงงานสุราบางยี่ขัน เขตบางพลัด บรรจบกับปลายถนนวิสุทธิกษัตริย์ ใกล้กับธนาคารแห่งประเทศไทย เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร สะพานพระราม 8 นี้เกิดจากพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 พระองค์มีพระราชดำริให้กรุงเทพมหานครก่อสร้าง สะพานข้าม แม่น้ำเจ้าพระยา เพิ่มอีก 1 แห่ง เพื่อบรรเทาการจราจรบน สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า รองรับการเดินทางเชื่อมต่อระหว่างฝั่งพระนครกับฝั่งธนบุรี และเป็นจุดเชื่อมต่อโครงการพระราชดำริตามแนวจตุรทิศ สะพานพระราม 8 ช่วยเชื่อมการเดินทางระหว่างฝั่งพระนครกับฝั่งธนบุรีให้สะดวกสบายขึ้น ซึ่งจะช่วยระบายรถบนสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าได้ถึง 30% และบนสะพานกรุงธน อีก 20% และยังสามารถลดมลพิษทางอากาศบริเวณในเมือง โดยเริ่มเปิดให้ใช้ตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2545 เวลา 7:00 น. เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน.
วัดเทวราชกุญชร (วัดสมอแครง)
วัดแหล่งท่องเที่ยว ริมน้ำเจ้าพระยา ภายในวัดพระกอบด้วย พระอุโบสถ ที่สวยงาม ผนังพระอุโบสถมีภาพจิตรกรรม ผนังด้านข้างทั้ง ๒ ด้าน ภายในอุโบสถ มี พระพุทธเทวราชปฏิมากร พระประธานประจำพระอุโบสถ พระประธานในพระอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปโลหะหล่อลงรักปิดทอง ปางมารวิชัย ฝีมือช่างสมัยทวารวดี ประดิษฐานบนฐานชุกชี หน้าตักกว้าง ๔.๓๕ เมตร สูงตั้งแต่ พระเพลาถึงยอดเปลวรัศมี ๕.๖๕ เมตร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามพระประธานประจำพระอุโบสถ นามว่า “พระพุทธเทวราชปฏิมากร” เมื่อวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๖ ประวัติของพระพุทธรูปองค์นี้ คุณหลวงวรศักดิ์ภูบาล เล่าว่า ในหลวงรัชกาลที่ ๓ ทรงทราบว่า กรุงศรีอยุธยาพบพระทององค์ใหญ่โปรดเกล้าฯ ให้กรมหมื่นพระพิทักษ์เทเวศรไปอัญเชิญลงมายังพระนคร ในกรมได้ทรงต่อแพเชิญพระพุทธรูปองค์ใหญ่ล่องลงมา ครั้งถึงปากคลองเทเวศร์ แพเกิดดื้อฉุดเท่าไรก็ไม่มายังตำหนักแพจึงโปรดเกล้าฯ ให้กรมหมื่นพิทักษ์เทเวศรอัญเชิญพระพุทธรูปนี้ขึ้นที่วัดสมอแครง.พิพิธภัณฑ์สักทอง ซึ่ง อยู่ภายใน วัดสมอแครง (วัดเทวราชกุญชรวรวิหาร) เรือนไม้สักทองหลังนี้ มีลักษณะทรงปั้นหยาประยุกต์ 2 ชั้นกว้าง 16.75 เมตร ยาว 30.15 เมตร ชั้นบนจัดแสดงรูปปั้นหุ่นขี้ผึ้ง (ไฟเบอร์กลาส) เท่าพระองค์จริง ของสมเด็จพระสังฆราช 18 พระองค์ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ และประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ที่อัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา ให้ประชาชนได้สักการบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคล ชั้นล่างจัดแสดงภาพพระประวัติของสมเด็จพระสังฆราชทุกพระองค์ นิทรรศการวัดเทวราชกุญชร และมูลนิธิ ศ.ดร.อุกฤษ มงคลนาวิน บ้านสักทองหลังนี้ มีเสาไม้สักขนาด 2 คนโอบจำนวน 59 ต้นอายุไม้สักที่วิเคราะห์จากวงปีแล้ว มีอายุถึง 479 ปี หรือประมาณสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง และด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ยังมีรูปปั้นพระอินทร์ทรงช้าง 3 เศียร ผลงานออกแบบของพระเทพคุณาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชรองค์ปัจจุบัน เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรกที่จัดแสดงหุ่นขี้ผึ้งสมเด็จพระสังฆราชทั้ง 19 พระองค์ของประเทศไทย เป็นเรือนทรงปั้นหยาที่สร้างด้วยไม้สักทองทั้งหลัง
เมนูอาหาร ทัวร์วันแม่ บนเรือ วันเดอร์ฟูลเพิร์ล ครูซส์
BREAKFAST
07.30-08.30 น.
-BOILED RICE WITH FISH- ข้าวต้มปลา
-SOYBEAN MILK & SIDE DISHES - น้ำเต้าหู้ พร้อมเครื่องเคียง
-WHITE SUGAR SPONGE CAKE & STEAMED STUFF BUN- ปาท่องโก๋ และซาลาเปา
- HOT TEA & HOT COFFEE- ชา,กาแฟ
BUFFET LUNCH 12.30 น.
- ASSORTMENT OF COLD CUTS & SAUSAGES - โคลคัท&ไส้กรอกต่างๆ
- TUNA SALAD - ทูน่าสลัด
- BOILED EGGS - ไข่ต้ม
COLD STARTERS&SALADS
- COMBINATION MIXED SALAD- สลัดผัดรวม
- PAPAYA SALAD - ส้มตำไทย-ปู
- ASSORTED HOME MADE DRESSING- น้ำสลัดต่างๆ
- DEEP FRIED CHICKEN WING- ปีกไก่ทอด
BREAD SOUP
- VARIETY OF FRENCH BREAD & BUTTER- ขนมปังฝรั่งเศส&เนย
- SPICY PRAWN SOUP- ต้มยำกุ้ง
- VEGETABLE SAUTE WITH GARLIC & SOYA SAUCE- ผัดผักรวมมิตร
- THAI GREEN CURRY CHICKEN AND RICE VERMICELLI- แกงเขียวหวานไก่ และ ขนมจีน
- CREAMY RED CURRY WITH BEEF- พะแนงเนื้อ
- GRILLED PORK LOIN WITH PEPPER SAUCE- หมูสันนอกย่างพริกไทยอ่อน
- SAUTEED CHICKEN WITH CASHEW NUTS- ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์
- DEEP FRIED FISH FILLETS TOPPED WITH 3 FLAVORS SAUCE- ปลาทอดราดซอสพริกสามรส
- YFRIED NOODLES THAI STYLE- ก๋วยเตี๋ยวผัดไทย
- FRIED RICE WITH CRAB MEAT- ข้าวผัดปู
- STICKY RICE- ข้าวเหนียว
- STREAMED RICE- ข้าวสวย
DESSERTS SELECTION
- FRESH SEASONAL FRUIT- ผลไม้ตามฤดูกาล
- VARIETY OF CAKES- เค้กต่างๆ
COFFEE BREAK 15.00 น.
- COMBINATION OF THAI SWEETS - ขนมไทยรวมมิตร ตะโก้ ขนมชั้น - ลอดช่อง เผือก แตงไทย- ข้าวเหนียวดำ น้ำกะทิ ช่วงบ่าย
- HOT TEA & HOT COFFEE - ชา,กาแฟ
07.30-08.30 น.
-BOILED RICE WITH FISH- ข้าวต้มปลา
-SOYBEAN MILK & SIDE DISHES - น้ำเต้าหู้ พร้อมเครื่องเคียง
-WHITE SUGAR SPONGE CAKE & STEAMED STUFF BUN- ปาท่องโก๋ และซาลาเปา
- HOT TEA & HOT COFFEE- ชา,กาแฟ
BUFFET LUNCH 12.30 น.
- ASSORTMENT OF COLD CUTS & SAUSAGES - โคลคัท&ไส้กรอกต่างๆ
- TUNA SALAD - ทูน่าสลัด
- BOILED EGGS - ไข่ต้ม
COLD STARTERS&SALADS
- COMBINATION MIXED SALAD- สลัดผัดรวม
- PAPAYA SALAD - ส้มตำไทย-ปู
- ASSORTED HOME MADE DRESSING- น้ำสลัดต่างๆ
- DEEP FRIED CHICKEN WING- ปีกไก่ทอด
BREAD SOUP
- VARIETY OF FRENCH BREAD & BUTTER- ขนมปังฝรั่งเศส&เนย
- SPICY PRAWN SOUP- ต้มยำกุ้ง
- VEGETABLE SAUTE WITH GARLIC & SOYA SAUCE- ผัดผักรวมมิตร
- THAI GREEN CURRY CHICKEN AND RICE VERMICELLI- แกงเขียวหวานไก่ และ ขนมจีน
- CREAMY RED CURRY WITH BEEF- พะแนงเนื้อ
- GRILLED PORK LOIN WITH PEPPER SAUCE- หมูสันนอกย่างพริกไทยอ่อน
- SAUTEED CHICKEN WITH CASHEW NUTS- ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์
- DEEP FRIED FISH FILLETS TOPPED WITH 3 FLAVORS SAUCE- ปลาทอดราดซอสพริกสามรส
- YFRIED NOODLES THAI STYLE- ก๋วยเตี๋ยวผัดไทย
- FRIED RICE WITH CRAB MEAT- ข้าวผัดปู
- STICKY RICE- ข้าวเหนียว
- STREAMED RICE- ข้าวสวย
DESSERTS SELECTION
- FRESH SEASONAL FRUIT- ผลไม้ตามฤดูกาล
- VARIETY OF CAKES- เค้กต่างๆ
COFFEE BREAK 15.00 น.
- COMBINATION OF THAI SWEETS - ขนมไทยรวมมิตร ตะโก้ ขนมชั้น - ลอดช่อง เผือก แตงไทย- ข้าวเหนียวดำ น้ำกะทิ ช่วงบ่าย
- HOT TEA & HOT COFFEE - ชา,กาแฟ