ล่องเรือ ชม แม่น้ำเจ้าพระยา กลางวัน เรือท่องเที่ยว เจ้าพระยา ทานอาหาร บน เรือ
ล่องเรือ ชมวิว ยามเช้า เจ้าพระยา ล่องเรือ สำราญ เจ้าพระยา สัมผัส บรรยากาศ ยามเช้า ตามสายน้ำแห่งประวัติศาสตร์ “แม่น้ำเจ้าพระยา” โดย ล่องเรือ ออกจาก เมืองหลวง ศรีวิไล กรุงเทพมหานคร สู่ นอกเมือง ปลายทาง นนทบุรี ชมวิถีชีวิต การเป็นอยู่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา. ยินดีต้อนรับท่านสู่ เรือสำราญ เจ้าพระยา ด้วยรอยยิ้ม แห่งการต้อนรับ ด้วยไมตรีจิตร ด้วยบริกร บนเรือ หลังจากนั้น เรือสำราญเจ้าพระยา จะพาท่าน ล่องเรือ ออกจากท่าเรือ ตามสายน้ำเจ้าพระยา พนักงานบริกร บนเรือ บริการเสิร์ฟ ชา กาแฟ ของทานว่าง ให้สำหรับแขกทุกท่านบนเรือสำราญ โดยขณะนั้น เรือสำราญ จะ ล่องเรือ ผ่านสถานที่สำคัญต่าง ๆ ริมน้ำเจ้าพระยา สู่จุดหมายปลายทาง นอกเมือง
โปรแกรม ล่องเรือ ชมวิวเจ้าพระยา
07.30 น. รถรับท่านจากโรงแรม นำพาท่าน ไปท่าเรือ
08.30 น. เรือสำราญ ออกจากท่าเรือกรุงเทพมหานคร พร้อมบริการ ชา กาแฟ บนเรือ ในขณะนั้น เรือสำราญ จะพาท่าน ล่องเรือ ผ่านแหล่งท่องเที่ยว ริมน้ำเจ้าพระยา ดังต่อไปนี้
- ผ่านวัดอรุณฯ พระปรางค์วัดอรุณฯ มีความโดดเด่นเป็นสง่า โดยเฉพาะเมื่อแสงอาทิตย์ยามเช้าส่องต้องลวดลายที่ประดับด้วยถ้วยชามสังคโลกจากเมืองจีน พระปรางค์องค์นี้สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี บริเวณนี้คือพระราชวังเดิมเมื่อครั้งไทยย้ายราชธานีจากอยุธยามาตั้งเมืองหลวงเป็นกรุงธนบุรี
- ผ่านพระบรมมหาราชวัง อันงามสง่าด้วยศิลปะไทยที่อ่อนช้อยอร่ามตาด้วยสีทองตัดสีแดง สิ่งก่อสร้างสำคัญทั้งสองนี้ มองจากเรือที่แล่นอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยาคือภาพความประทับใจเหนือจินตนาการ
เรือสำราญ จะพาท่านล่องออกจาก เมืองหลวงของกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นชีวิตยามเช้าที่ผู้คนเดินทางสัญจรทางน้ำโดยใช้เรือหางยาวเป็นหลักเข้าสู่ชนบท บางช่วงผ่านชุมชน บ้านทรงไทย เรือนแพ และผ่านเรือกสวนไร่นา ทั้งสองฝั่งมีบ้านทรงไทยซึ่งสวยงามแตกต่างกัน แต่ที่เหมือนๆกันคือ แต่ละหลังจะประดับประดาด้วยต้นไม้ ดอกไม้สีสันสะดุดตา อิริยาบทของการดำเนินชีวิตแบบไทยๆ ของผู้คนที่อาศัยอยู่สองฝั่งเจ้าพระยาคือภาพที่เห็นอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะภาพของเด็ก ๆ เล่นน้ำหยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน แต่ไม่ลืมที่จะโบกมือน้อย ๆ ทักทายนักท่องเที่ยวเมื่อเรือผ่าน
10.45 น.อาหารกลางวัน อิ่มอร่อยกับอาหารกลางวันแบบบุฟเฟต์
มีทั้งอาหารไทยและยุโรป ของหวาน ผลไม้ไทยตามฤดูกาล พร้อมชา กาแฟ
11.45 น.เรือเทียบท่า หลังจากน้ัน รถรับส่ง บริการพาท่านเดินทางกลับ กรุงเทพมหานคร
การที่ได้ล่องเรือตามแม่น้ำเพลิดเพลินกับธรรมชาติ ผนวกกับสถานที่ต่าง ๆ ที่ท่านได้ผ่าน นับเป็นการพักผ่อนอย่างคุ้มเวลา และเป็นการให้รางวัลแก่ชีวิตที่คุ้มค่าที่สุดอีกทางหนึ่ง
ล่องเรือเที่ยว แม่น้ำเจ้าพระยา ราคา
ผู้ใหญ่ 2950 บาท (จำนวนอย่างต่ำ 2 )
เด็ก 2500 บาท
*ราคาเด็ก: อายุต่ำกว่า 9 ปี.
ราคานี้ได้รวม
07.30 น. รถรับท่านจากโรงแรม นำพาท่าน ไปท่าเรือ
08.30 น. เรือสำราญ ออกจากท่าเรือกรุงเทพมหานคร พร้อมบริการ ชา กาแฟ บนเรือ ในขณะนั้น เรือสำราญ จะพาท่าน ล่องเรือ ผ่านแหล่งท่องเที่ยว ริมน้ำเจ้าพระยา ดังต่อไปนี้
- ผ่านวัดอรุณฯ พระปรางค์วัดอรุณฯ มีความโดดเด่นเป็นสง่า โดยเฉพาะเมื่อแสงอาทิตย์ยามเช้าส่องต้องลวดลายที่ประดับด้วยถ้วยชามสังคโลกจากเมืองจีน พระปรางค์องค์นี้สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี บริเวณนี้คือพระราชวังเดิมเมื่อครั้งไทยย้ายราชธานีจากอยุธยามาตั้งเมืองหลวงเป็นกรุงธนบุรี
- ผ่านพระบรมมหาราชวัง อันงามสง่าด้วยศิลปะไทยที่อ่อนช้อยอร่ามตาด้วยสีทองตัดสีแดง สิ่งก่อสร้างสำคัญทั้งสองนี้ มองจากเรือที่แล่นอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยาคือภาพความประทับใจเหนือจินตนาการ
เรือสำราญ จะพาท่านล่องออกจาก เมืองหลวงของกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นชีวิตยามเช้าที่ผู้คนเดินทางสัญจรทางน้ำโดยใช้เรือหางยาวเป็นหลักเข้าสู่ชนบท บางช่วงผ่านชุมชน บ้านทรงไทย เรือนแพ และผ่านเรือกสวนไร่นา ทั้งสองฝั่งมีบ้านทรงไทยซึ่งสวยงามแตกต่างกัน แต่ที่เหมือนๆกันคือ แต่ละหลังจะประดับประดาด้วยต้นไม้ ดอกไม้สีสันสะดุดตา อิริยาบทของการดำเนินชีวิตแบบไทยๆ ของผู้คนที่อาศัยอยู่สองฝั่งเจ้าพระยาคือภาพที่เห็นอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะภาพของเด็ก ๆ เล่นน้ำหยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน แต่ไม่ลืมที่จะโบกมือน้อย ๆ ทักทายนักท่องเที่ยวเมื่อเรือผ่าน
10.45 น.อาหารกลางวัน อิ่มอร่อยกับอาหารกลางวันแบบบุฟเฟต์
มีทั้งอาหารไทยและยุโรป ของหวาน ผลไม้ไทยตามฤดูกาล พร้อมชา กาแฟ
11.45 น.เรือเทียบท่า หลังจากน้ัน รถรับส่ง บริการพาท่านเดินทางกลับ กรุงเทพมหานคร
การที่ได้ล่องเรือตามแม่น้ำเพลิดเพลินกับธรรมชาติ ผนวกกับสถานที่ต่าง ๆ ที่ท่านได้ผ่าน นับเป็นการพักผ่อนอย่างคุ้มเวลา และเป็นการให้รางวัลแก่ชีวิตที่คุ้มค่าที่สุดอีกทางหนึ่ง
ล่องเรือเที่ยว แม่น้ำเจ้าพระยา ราคา
ผู้ใหญ่ 2950 บาท (จำนวนอย่างต่ำ 2 )
เด็ก 2500 บาท
*ราคาเด็ก: อายุต่ำกว่า 9 ปี.
ราคานี้ได้รวม
- อาหารกลางวัน บุพเฟ่ต์นานาชาติ.
- ชา กาแฟ
- ทริปล่องเรือสำราญ เจ้าพระยา
- รถรับส่งไป-กลับ ส่วนตัว
ทัศนียภาพ ความสวยงาม ของ สถานที่ แหล่งท่องเที่ยว ริมน้ำ เจ้าพระยา
โรงแรม ริมน้ำเจ้าพระยา 5 ดาว
ความสวยงาม ของสถาปัตยกรรม สิ่งก่อสร้าง ของ โรงแรม รีสอร์ท ริมน้ำ เจ้าพระยา ทำให้เกิดทัศนีย์ภาพ สวยงาม คู่ แม่น้ำเจ้าพระยา อาทิเช่น
โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน โรงแรมแมนดาริน โอเรียลเต็ล โรงแรมเพนนินซูลา โรงแรมแชงกรี-ลา
โบสถ์ซางตาครู้ส วัดซางตาครู้ส หรือ วัดกุฎีจีน
วัดซางตาครู้สเป็น คริสต์ศาสนสถาน เก่าแก่ อายุนับร้อยปี ที่อยู่คู่กับชุมชนกุฎีจีนเก่าแก่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณด้านหน้าวัด หันออกสู่ แม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณที่ตั้งของ วัดซางตาครู้ส อยู่ใกล้กับพระราชวังเดิม สมัยธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชพระราชทานที่ดินให้แก่ชาวโปรตุเกสซึ่งร่วมทำการศึกต่อต้านพม่าจนได้รับชัยชนะ ก่อตั้งโดย นักบวชชาวโปรตุเกส โบสถ์ซางตาครู้ส มีสถาปัตยกรรมที่เป็นโดมแบบอิตาลีที่โดดเด่น คล้ายคลึงกับ ยอดโดมมหาวิหารฟลอเรนซ์ ที่งดงามคู่ แม่น้ำเจ้าพระยา.
สะพานพุทธ
สะพานพุทธ หรือ สะพานพระพุทธยอดฟ้า หรืออีกชื่อที่เป็นทางการ สะพานปฐมบรมราชานุสรณ์ สะพานพระพุทธยอดฟ้า เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่เชื่อมการคมนาคมติดต่อระหว่างฝั่งพระนครกับฝั่งธนบุรีของกรุงเทพมหานคร ที่ปลายถนนตรีเพชร แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กับปลายถนนประชาธิปก แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี ปัจจุบันสะพานแห่งนี้อยู่ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวงชนบท สะพานพระพุทธยอดฟ้า เป็นสะพานที่สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) เมื่อปี พ.ศ. 2472 เนื่องในโอกาสสถาปนากรุงเทพมหานครครบ 150 ปี และโปรดเกล้าฯ ให้มีพระราชพิธีฉลองพระนครครบ 150 ปี ด้วยพระราชดำริที่จะสร้างสิ่งที่เป็นอนุสรณ์ถึงความรำลึกในพระกรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ผู้ทรงสถาปนากรุงเทพมหานคร
วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร
วัดกัลยามิตร หรือชื่อเต็ม วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร หรือ "วัดกัลยา" วัดหลวงพ่อโต ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งธนบุรี บริเวณปากคลองบางกอกใหญ่ฝั่งใต้ เจ้าพระยานิกรบดินทร์ (โต) ต้นสกุลกัลยาณมิตร ว่าที่สมุหนายก ได้อุทิศบ้านและที่ดินบริเวณใกล้เคียง ซึ่งแต่เดิมเป็นหมู่บ้านที่มีภิกษุจีนพำนักอยู่ และเรียกกันต่อมาว่า "หมู่บ้านกุฎีจีน" สร้างเป็นวัดขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๓๖๘ และน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระอารามหลวง พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ พระราชทานนามว่า "วัดกัลยาณมิตร" และทรงสร้างพระวิหารหลวงและพระประธานพระราชทาน เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ชื่อ พระพุทธไตรรัตนนายก หรือ หลวงพ่อโต ด้วยมีพระประสงค์จะให้เหมือนกรุงเก่า คือมีพระโตอยู่นอกกำแพงเมือง อย่างเช่นวัดพนัญเชิง หลวงพ่อโต วัดกัลยามิตร เป็นที่เคารพสักการะอย่างสูง โดยเฉพาะในหมู่ชาวจีน เรียกชื่อแบบจีนว่า ซำปอฮุดกง หรือ ซำปอกง วัดกัลยามิตร เป็นวัดเดียวในประเทศไทยที่มีพระประธานเป็นพระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังแสดงพุทธประวัติ และแสดงชีวิตชาวบ้านในสมัยรัชกาลที่ ๓
วัดอรุณราชวราราม หรือ วัดแจ้ง
วัดอรุณ, วัดอรุณราชวราราม หรือที่นิยมเรียกกันในภาษาพูดว่า วัดแจ้ง หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า วัดอรุณ เป็นวัดโบราณ สร้างในสมัยอยุธยา ว่ากันว่าเดิมเรียกว่า วัดมะกอก และกลายเป็นวัดมะกอกนอกในเวลาต่อมา เพราะได้มีการสร้างวัดขึ้นอีกวัดหนึ่งในตำบลเดียวกัน แต่อยู่ในคลองบางกอกใหญ่ ชาวบ้านเรียกวัดที่สร้างใหม่ว่า วัดมะกอกใน (วัดนวลนรดิศ) แล้วจึงเรียกวัดมะกอกซึ่งอยู่ปากคลองบางกอกใหญ่ว่า วัดมะกอกนอก ส่วนเหตุที่มีการเปลี่ยนชื่อเป็นวัดแจ้งนั้น เชื่อกันว่า เมื่อ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงตั้งราชธานีที่กรุงธนบุรีใน พ.ศ. 2310 ได้เสด็จมาถึงหน้าวัดนี้ตอนรุ่งแจ้ง จึงพระราชทานชื่อใหม่ว่า วัดแจ้ง แต่ความเชื่อนี้ไม่ถูกต้อง เพราะเพลงยาวหม่อมภิมเสน วรรณกรรมสมัยอยุธยาที่บรรยายการเดินทางจากอยุธยาไปยังเพชรบุรี ได้ระบุชื่อวัดนี้ไว้ว่าชื่อวัดแจ้งตั้งแต่เวลานั้นแล้ว เมื่อในสมัยรัตนโกสินทร์ รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร ได้เสด็จมาประทับที่พระราชวังเดิม และได้ทรงปฏิสังขรณ์วัดแจ้งใหม่ทั้งวัด แต่ยังไม่ทันสำเร็จก็สิ้นรัชกาลที่ 1 สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทรได้เสด็จขึ้นครองราชสมบัติเป็นพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระองค์ได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์วัดแจ้งต่อมา และพระราชทานนามใหม่ว่า “วัดอรุณราชธาราม”
พระบรมหาราชวัง วัดพระแก้ว
พระบรมมหาราชวัง ทิวทัศน์ สวยงาม ตระการตา คู่ ริมน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา วัดพระแก้ว หรือ พระราชวังพระนคร เป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์สมัยรัตนโกสินทร์ ตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ตั้งอยู่ที่แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ปัจจุบัน พระบรมมหาราชวัง เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับ ของโลก ที่นักท่องเที่ยว นิยมมา เมื่อมาถึงประเทศไทย นักท่องเที่ยว ต้องมา เที่ยวพระบรมหาราชวัง หรือ วัดพระแก้ว แห่งนี้ พระบรมมหาราชวัง วัดพระแก้ว ตั้งอยู่พื้นที่ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร โดยมีอาณาเขตติดต่อกับสถานที่สำคัญลักษณะเรียงตามเข็มนาฬิกาดังนี้ ทิศเหนือ ติดกับท้องสนามหลวง ทิศตะวันออก ติดกับกระทรวงกลาโหม ทิศใต้ ติดกับ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร หรือ วัดโพธิ์ ทิศตะวันตก ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา
วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร
วัดระฆังโฆสิตาราม ชื่อเต็ม วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร หรือ วัดระฆัง,วัดหลวงพ่อโต ตั้งอยู่เลขที่ 250 แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร วัดแห่งนี้เป็นวัดโบราณ สร้างในสมัยอยุธยา เดิมชื่อ วัดบางว้าใหญ่ (หรือบางหว้าใหญ่) ในสมัยธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงสร้างพระราชวังใกล้วัดบางว้าใหญ่ โปรดเกล้าฯ ให้ยกเป็นพระอารามหลวงและเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราช ในสมัยรัตนโกสินทร์ “วัดระฆังโฆสิตาราม” นอกจากเป็นเพราะขุดพบระฆังที่วัดนี้และเพื่อฟื้นฟูแบบแผนครั้งกรุงศรีอยุธยาที่มีวัดชื่อวัดระฆังเช่นกัน ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อ “วัดระฆังโฆสิตาราม” ภายในวัด มีหอพระไตรปิฎกซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามมาก เคยเป็นพระตำหนักและหอประทับนั่งของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชขณะทรงรับราชการในสมัยธนบุรี และโปรดเกล้าฯ ให้รื้อมาถวายวัด เมื่อเสด็จขึ้นครองราชสมบัติแล้ว มีพระราชประสงค์จะบูรณปฏิสังขรณ์ให้สวยงามเพื่อเป็นหอพระไตรปิฎก วัดระฆัง เป็น วัดท่องเที่ยว ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีประวัติศาสตร์คู่คนไทยมานมนาน.
สะพานพระราม 8
สะพานพระราม 8 เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งที่ 13 ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีแนวสายทางเชื่อมต่อกับทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณโรงงานสุราบางยี่ขัน เขตบางพลัด บรรจบกับปลายถนนวิสุทธิกษัตริย์ ใกล้กับธนาคารแห่งประเทศไทย เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร สะพานพระราม 8 นี้เกิดจากพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 พระองค์มีพระราชดำริให้กรุงเทพมหานครก่อสร้าง สะพานข้าม แม่น้ำเจ้าพระยา เพิ่มอีก 1 แห่ง เพื่อบรรเทาการจราจรบน สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า รองรับการเดินทางเชื่อมต่อระหว่างฝั่งพระนครกับฝั่งธนบุรี และเป็นจุดเชื่อมต่อโครงการพระราชดำริตามแนวจตุรทิศ สะพานพระราม 8 ช่วยเชื่อมการเดินทางระหว่างฝั่งพระนครกับฝั่งธนบุรีให้สะดวกสบายขึ้น ซึ่งจะช่วยระบายรถบนสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าได้ถึง 30% และบนสะพานกรุงธน อีก 20% และยังสามารถลดมลพิษทางอากาศบริเวณในเมือง โดยเริ่มเปิดให้ใช้ตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2545 เวลา 7:00 น. เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน.
เกาะเกร็ด ชุมชน ชาวมอญ
เกาะเกร็ด แหล่งท่องเที่ยว ชื่อดัง จังหวัดนนทบุรี เกาะเกร็ด เป็นเกาะกลางน้ำใน แม่น้ำเจ้าพระยา ตอนล่าง พระเจดีย์มุเตา หรือ “เจดีย์เอียง” ของวัดปรมัยยิกาวาส ตั้งอยู่บริเวณหัวแหลมของเกาะเกร็ด ริมแม่น้ำเจ้าพระยา คือแลนด์มาร์คสำคัญของเกาะเกร็ด อำเภอปากเกร็ด อายุราว 300 ปี ภายในบรรจุพระธาตุเป็นที่เคารพสักการะของชาวไทยเชื้อสายมอญ เกาะเกร็ด เป็นที่อยู่ของชาวไทยเชื้อสายมอญที่มีอาชีพปั้นเครื่องปั้นดินเผาเป็นส่วนใหญ่ เกาะเกร็ดเกิดจากการขุดคลองลัดแม่น้ำเจ้าพระยาเมื่อปี พ.ศ. 2265 คลองลัดดังกล่าวเรียกว่า "คลองลัดเกร็ดน้อย" หรือ "คลองเตร็ดน้อย" เกาะเกร็ดเป็นย่านชุมชนที่มีความเจริญมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย เป็นทั้งชุมชนค้าขายและเป็นที่ตั้งด่านตรวจเรือต่าง ๆ ที่จะเดินทางผ่านไปยังอยุธยา เมื่อครั้งคราวในอดีต ปัจจุบัน เกาะเกร็ด เป็น แหล่งท่องเที่ยว ชื่อดัง ของ จังหวัด นนทบุรี
โรงแรม ริมน้ำเจ้าพระยา 5 ดาว
ความสวยงาม ของสถาปัตยกรรม สิ่งก่อสร้าง ของ โรงแรม รีสอร์ท ริมน้ำ เจ้าพระยา ทำให้เกิดทัศนีย์ภาพ สวยงาม คู่ แม่น้ำเจ้าพระยา อาทิเช่น
โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน โรงแรมแมนดาริน โอเรียลเต็ล โรงแรมเพนนินซูลา โรงแรมแชงกรี-ลา
โบสถ์ซางตาครู้ส วัดซางตาครู้ส หรือ วัดกุฎีจีน
วัดซางตาครู้สเป็น คริสต์ศาสนสถาน เก่าแก่ อายุนับร้อยปี ที่อยู่คู่กับชุมชนกุฎีจีนเก่าแก่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณด้านหน้าวัด หันออกสู่ แม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณที่ตั้งของ วัดซางตาครู้ส อยู่ใกล้กับพระราชวังเดิม สมัยธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชพระราชทานที่ดินให้แก่ชาวโปรตุเกสซึ่งร่วมทำการศึกต่อต้านพม่าจนได้รับชัยชนะ ก่อตั้งโดย นักบวชชาวโปรตุเกส โบสถ์ซางตาครู้ส มีสถาปัตยกรรมที่เป็นโดมแบบอิตาลีที่โดดเด่น คล้ายคลึงกับ ยอดโดมมหาวิหารฟลอเรนซ์ ที่งดงามคู่ แม่น้ำเจ้าพระยา.
สะพานพุทธ
สะพานพุทธ หรือ สะพานพระพุทธยอดฟ้า หรืออีกชื่อที่เป็นทางการ สะพานปฐมบรมราชานุสรณ์ สะพานพระพุทธยอดฟ้า เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่เชื่อมการคมนาคมติดต่อระหว่างฝั่งพระนครกับฝั่งธนบุรีของกรุงเทพมหานคร ที่ปลายถนนตรีเพชร แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กับปลายถนนประชาธิปก แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี ปัจจุบันสะพานแห่งนี้อยู่ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวงชนบท สะพานพระพุทธยอดฟ้า เป็นสะพานที่สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) เมื่อปี พ.ศ. 2472 เนื่องในโอกาสสถาปนากรุงเทพมหานครครบ 150 ปี และโปรดเกล้าฯ ให้มีพระราชพิธีฉลองพระนครครบ 150 ปี ด้วยพระราชดำริที่จะสร้างสิ่งที่เป็นอนุสรณ์ถึงความรำลึกในพระกรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ผู้ทรงสถาปนากรุงเทพมหานคร
วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร
วัดกัลยามิตร หรือชื่อเต็ม วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร หรือ "วัดกัลยา" วัดหลวงพ่อโต ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งธนบุรี บริเวณปากคลองบางกอกใหญ่ฝั่งใต้ เจ้าพระยานิกรบดินทร์ (โต) ต้นสกุลกัลยาณมิตร ว่าที่สมุหนายก ได้อุทิศบ้านและที่ดินบริเวณใกล้เคียง ซึ่งแต่เดิมเป็นหมู่บ้านที่มีภิกษุจีนพำนักอยู่ และเรียกกันต่อมาว่า "หมู่บ้านกุฎีจีน" สร้างเป็นวัดขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๓๖๘ และน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระอารามหลวง พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ พระราชทานนามว่า "วัดกัลยาณมิตร" และทรงสร้างพระวิหารหลวงและพระประธานพระราชทาน เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ชื่อ พระพุทธไตรรัตนนายก หรือ หลวงพ่อโต ด้วยมีพระประสงค์จะให้เหมือนกรุงเก่า คือมีพระโตอยู่นอกกำแพงเมือง อย่างเช่นวัดพนัญเชิง หลวงพ่อโต วัดกัลยามิตร เป็นที่เคารพสักการะอย่างสูง โดยเฉพาะในหมู่ชาวจีน เรียกชื่อแบบจีนว่า ซำปอฮุดกง หรือ ซำปอกง วัดกัลยามิตร เป็นวัดเดียวในประเทศไทยที่มีพระประธานเป็นพระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังแสดงพุทธประวัติ และแสดงชีวิตชาวบ้านในสมัยรัชกาลที่ ๓
วัดอรุณราชวราราม หรือ วัดแจ้ง
วัดอรุณ, วัดอรุณราชวราราม หรือที่นิยมเรียกกันในภาษาพูดว่า วัดแจ้ง หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า วัดอรุณ เป็นวัดโบราณ สร้างในสมัยอยุธยา ว่ากันว่าเดิมเรียกว่า วัดมะกอก และกลายเป็นวัดมะกอกนอกในเวลาต่อมา เพราะได้มีการสร้างวัดขึ้นอีกวัดหนึ่งในตำบลเดียวกัน แต่อยู่ในคลองบางกอกใหญ่ ชาวบ้านเรียกวัดที่สร้างใหม่ว่า วัดมะกอกใน (วัดนวลนรดิศ) แล้วจึงเรียกวัดมะกอกซึ่งอยู่ปากคลองบางกอกใหญ่ว่า วัดมะกอกนอก ส่วนเหตุที่มีการเปลี่ยนชื่อเป็นวัดแจ้งนั้น เชื่อกันว่า เมื่อ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงตั้งราชธานีที่กรุงธนบุรีใน พ.ศ. 2310 ได้เสด็จมาถึงหน้าวัดนี้ตอนรุ่งแจ้ง จึงพระราชทานชื่อใหม่ว่า วัดแจ้ง แต่ความเชื่อนี้ไม่ถูกต้อง เพราะเพลงยาวหม่อมภิมเสน วรรณกรรมสมัยอยุธยาที่บรรยายการเดินทางจากอยุธยาไปยังเพชรบุรี ได้ระบุชื่อวัดนี้ไว้ว่าชื่อวัดแจ้งตั้งแต่เวลานั้นแล้ว เมื่อในสมัยรัตนโกสินทร์ รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร ได้เสด็จมาประทับที่พระราชวังเดิม และได้ทรงปฏิสังขรณ์วัดแจ้งใหม่ทั้งวัด แต่ยังไม่ทันสำเร็จก็สิ้นรัชกาลที่ 1 สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทรได้เสด็จขึ้นครองราชสมบัติเป็นพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระองค์ได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์วัดแจ้งต่อมา และพระราชทานนามใหม่ว่า “วัดอรุณราชธาราม”
พระบรมหาราชวัง วัดพระแก้ว
พระบรมมหาราชวัง ทิวทัศน์ สวยงาม ตระการตา คู่ ริมน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา วัดพระแก้ว หรือ พระราชวังพระนคร เป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์สมัยรัตนโกสินทร์ ตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ตั้งอยู่ที่แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ปัจจุบัน พระบรมมหาราชวัง เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับ ของโลก ที่นักท่องเที่ยว นิยมมา เมื่อมาถึงประเทศไทย นักท่องเที่ยว ต้องมา เที่ยวพระบรมหาราชวัง หรือ วัดพระแก้ว แห่งนี้ พระบรมมหาราชวัง วัดพระแก้ว ตั้งอยู่พื้นที่ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร โดยมีอาณาเขตติดต่อกับสถานที่สำคัญลักษณะเรียงตามเข็มนาฬิกาดังนี้ ทิศเหนือ ติดกับท้องสนามหลวง ทิศตะวันออก ติดกับกระทรวงกลาโหม ทิศใต้ ติดกับ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร หรือ วัดโพธิ์ ทิศตะวันตก ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา
วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร
วัดระฆังโฆสิตาราม ชื่อเต็ม วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร หรือ วัดระฆัง,วัดหลวงพ่อโต ตั้งอยู่เลขที่ 250 แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร วัดแห่งนี้เป็นวัดโบราณ สร้างในสมัยอยุธยา เดิมชื่อ วัดบางว้าใหญ่ (หรือบางหว้าใหญ่) ในสมัยธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงสร้างพระราชวังใกล้วัดบางว้าใหญ่ โปรดเกล้าฯ ให้ยกเป็นพระอารามหลวงและเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราช ในสมัยรัตนโกสินทร์ “วัดระฆังโฆสิตาราม” นอกจากเป็นเพราะขุดพบระฆังที่วัดนี้และเพื่อฟื้นฟูแบบแผนครั้งกรุงศรีอยุธยาที่มีวัดชื่อวัดระฆังเช่นกัน ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อ “วัดระฆังโฆสิตาราม” ภายในวัด มีหอพระไตรปิฎกซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามมาก เคยเป็นพระตำหนักและหอประทับนั่งของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชขณะทรงรับราชการในสมัยธนบุรี และโปรดเกล้าฯ ให้รื้อมาถวายวัด เมื่อเสด็จขึ้นครองราชสมบัติแล้ว มีพระราชประสงค์จะบูรณปฏิสังขรณ์ให้สวยงามเพื่อเป็นหอพระไตรปิฎก วัดระฆัง เป็น วัดท่องเที่ยว ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีประวัติศาสตร์คู่คนไทยมานมนาน.
สะพานพระราม 8
สะพานพระราม 8 เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งที่ 13 ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีแนวสายทางเชื่อมต่อกับทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณโรงงานสุราบางยี่ขัน เขตบางพลัด บรรจบกับปลายถนนวิสุทธิกษัตริย์ ใกล้กับธนาคารแห่งประเทศไทย เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร สะพานพระราม 8 นี้เกิดจากพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 พระองค์มีพระราชดำริให้กรุงเทพมหานครก่อสร้าง สะพานข้าม แม่น้ำเจ้าพระยา เพิ่มอีก 1 แห่ง เพื่อบรรเทาการจราจรบน สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า รองรับการเดินทางเชื่อมต่อระหว่างฝั่งพระนครกับฝั่งธนบุรี และเป็นจุดเชื่อมต่อโครงการพระราชดำริตามแนวจตุรทิศ สะพานพระราม 8 ช่วยเชื่อมการเดินทางระหว่างฝั่งพระนครกับฝั่งธนบุรีให้สะดวกสบายขึ้น ซึ่งจะช่วยระบายรถบนสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าได้ถึง 30% และบนสะพานกรุงธน อีก 20% และยังสามารถลดมลพิษทางอากาศบริเวณในเมือง โดยเริ่มเปิดให้ใช้ตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2545 เวลา 7:00 น. เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน.
เกาะเกร็ด ชุมชน ชาวมอญ
เกาะเกร็ด แหล่งท่องเที่ยว ชื่อดัง จังหวัดนนทบุรี เกาะเกร็ด เป็นเกาะกลางน้ำใน แม่น้ำเจ้าพระยา ตอนล่าง พระเจดีย์มุเตา หรือ “เจดีย์เอียง” ของวัดปรมัยยิกาวาส ตั้งอยู่บริเวณหัวแหลมของเกาะเกร็ด ริมแม่น้ำเจ้าพระยา คือแลนด์มาร์คสำคัญของเกาะเกร็ด อำเภอปากเกร็ด อายุราว 300 ปี ภายในบรรจุพระธาตุเป็นที่เคารพสักการะของชาวไทยเชื้อสายมอญ เกาะเกร็ด เป็นที่อยู่ของชาวไทยเชื้อสายมอญที่มีอาชีพปั้นเครื่องปั้นดินเผาเป็นส่วนใหญ่ เกาะเกร็ดเกิดจากการขุดคลองลัดแม่น้ำเจ้าพระยาเมื่อปี พ.ศ. 2265 คลองลัดดังกล่าวเรียกว่า "คลองลัดเกร็ดน้อย" หรือ "คลองเตร็ดน้อย" เกาะเกร็ดเป็นย่านชุมชนที่มีความเจริญมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย เป็นทั้งชุมชนค้าขายและเป็นที่ตั้งด่านตรวจเรือต่าง ๆ ที่จะเดินทางผ่านไปยังอยุธยา เมื่อครั้งคราวในอดีต ปัจจุบัน เกาะเกร็ด เป็น แหล่งท่องเที่ยว ชื่อดัง ของ จังหวัด นนทบุรี