เที่ยวอยุธยา ล่องเรือ กลางวัน เรือสำราญ ไวท์ออร์คิด ริเวอร์ครูซส์ อยุธยา
เที่ยวอยุธยา วันเดียว ทัวร์อยุธยา เต็มวัน บุฟเฟ่ท์ อาหารกลางวัน ล่องเรือ เที่ยววัด อยุธยา ไหว้พระ อยุธยา ล่องเรือ แม่น้ำเจ้าพระยา เรือไวท์ ออร์คิด ริเวอร์ ครูซส์ ทัวร์วันเดียว เที่ยวอยุธยา ล่องเรือ ชมกรุงเก่า อยุธยา มรกดกโลก เยี่ยมชม พระราชวัง ไหว้พระ กรุงเก่า อยุธยา ทริปช่วบ่าย ลงเรือ รับประทานอาหาร บนเรือสำราญ ไวท์ออร์คิด ริเวอร์ครูซส์ อยุธยา ล่องเรือ ชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา เรือจะ ล่องผ่าน เกาะเกร็ด นนทบุรี นอกเมือง สู่ กรุงเทพมหานคร เมืองหลวง "หยุดให้บริการล่องเรือชั่วคราว" แนะนำ ทัวร์อยุธยา ล่องเรือ แกรนด์เพิร์ล แทน
อยุธยา ล่องเรือ วันเดียวเที่ยวคุ้ม อยุธยาเมืองมรดกโลก ประวัติศาสตร์ ออกเดินทางเช้า โดยรถปรับอากาศ มุ่งหน้าสู่ บางปะอิน อยุธยา พร้อมนำเที่ยวสถานที่แรกในทริปนี้ คือ พระราชวังบางปะอิน อยุธยา พระราชวังบางปะอิน เยี่ยมชม พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ บนเกาะกลางน้ำอันงดงาม ในพระราชวัง บรรยากาศรายล้อมด้วยความสวยงาม ดอกไม้นานาพันธุ์ ร่มรื่น สถานที่สำคัญต่าง ๆ ภายในพระราชวังบางปะอิน เช่น พระที่นั่งวโรภาษพิมาน สภาคารราชประยูร พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร พระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ เก๋งบุปผาประพาส หอวิฑูรทัศนา ฯลฯ หลังจากนั้น ไกด์นำเที่ยวจะพาท่านมุ่งหน้าสู่ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เพื่อเยี่ยมชม วัดหาธาตุ วัดแห่งนี้เป็นที่คุ้นเคยสายตากันเป็นอย่างยิ่ง กับ เศียรพระพุทธรูปอยู่ใต้ต้นโพธิ์ ที่รายล้อมด้วย รากเหง้าของต้นโพธิ์ล้อมรอบเศียรพระพุทธรูปอยู่ และยังแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ อีกภายในวัดเช่น พระปรางค์ขนาดใหญ่ พระปรางค์ขนาด กลาง เจดีย์แปดเหลี่ยม ฐานชุกชี วิหารเล็ก เป็นต้น. หลังจากนั้นพาท่านไหว้พระ และ เที่ยวชมวัดเก่าแก่อยุธยาอันดับต่อไปคือ วัดหน้าพระเมรุ เป็นวัดมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์กรุงศรีอยุธยา เนื่องจากเคยเป็นวัดที่พม่าใช้ตั้งฐานบัญชาการจึงเป็นวัดเดียว ในกรุงศรีอยุธยาที่ไม่ได้ถูกพม่าทำลายและยังคงปรากฏสถาปัตยกรรมแบบอยุธยา และอยู่ในสภาพสมบูรณ์มากที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา วัดหน้าพระเมรุ เป็นวัดยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่มักเดินทางไปนมัสการ หลวงพ่อพระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ ที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งในกรุงศรีอยุธยา หลังจากนั้น ไกด์นำเที่ยวจะพาท่านเที่ยวชม พระพุทธไสยาสน์ ปางไสยาสน์ ที่ใหญ่ที่สุดในเกาะเมืองอยุธยา ที่ วัดโลกยาสุทธาราม ประดิษฐานอยู่กลางแจ้ง ก่ออิฐถือปูน มีความยาว 42 เมตร และสูง 8 เมตร พระพักตร์หันไปทางทิศเหนือ ที่พระเศียรมีดอกบัวรองรับ พระบาทซ้อนกันเป็นมุมฉาก นิ้วพระบาทยาวเท่ากัน มีดอกบัวเกยซ้อนรองรับพระเศียรแทนพระเขนย
แหล่งท่องเที่ยว อยุธยา เมืองมรดกโลก กรุงเก่า กับ ทริปนี้
แหล่งท่องเที่ยว อยุธยา เมืองมรดกโลก กรุงเก่า กับ ทริปนี้
พระราชวังบางปะอิน
พระราชวังบางปะอิน พระราชวังฤดูร้อน ได้สร้างขึ้นโดยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง เนื่องจากเป็นที่ประสูติของพระราชวังบางปะอิน พระราชวังฤดูร้อน อยุธยา,เที่ยวอยุธยา ล่องเรือ เต็มวัน พร้อมอาหารกลางวัน บุฟเฟ่ท์นานาชาติ ชา กาแฟพระองค์ ใช้เป็นสถานที่ที่ทรงใช้ประทับแรม ของพระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา ด้วยเป็นพระราชวังใกล้พระนครนั่นเอง หลังจากการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง พระราชวังบางปะอินถูกปล่อยให้รกร้างมาระยะหนึ่ง แต่กลับมาเป็นที่รู้จักอีกครั้งโดยสุนทรภู่ซึ่งได้ตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชไปนมัสการพระพุทธบาทสระบุรีได้ประพันธ์ถึงพระราชวังบางปะอินไว้ในนิราศพระบาท จนกระทั่ง ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงได้เริ่มการบูรณะพระราชวังขึ้น และในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้บูรณะครั้งใหญ่ โดยสร้างพระที่นั่ง พระตำหนัก และตำหนักต่าง ๆ ขึ้นมากมายเพื่อใช้เป็นที่ประทับรับรองพระราชอาคันตุกะ และพระราชทานเลี้ยงในโอกาสต่าง ๆ ปัจจุบัน พระราชวังบางปะอินอยู่ในความดูแลของสำนักพระราชวัง และยังใช้เป็นสถานที่แปรพระราชฐานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ รวมถึงประกอบพระราชพิธีสังเวยพระป้าย แต่ได้เปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าชมได้ สถานที่ท่องเที่ยว สำคัญภายใน พระราชวังบางปะอิน ประกอบไปด้วย พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร หอวิฑูรทัศนา พระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ ฯลฯ เป็นต้น. การแต่งกายในการเข้าชม พระราชวังบางปะอิน ต้องเรียบร้อยวัดมหาธาตุ อยุธยา (วัดเศียรพระในต้นโพธิ์ )
วัดมหาธาตุ อยุธยา , วัดมหาธาตุ เป็นวัดที่มีความสำคัญยิ่งในสมัยกรุงศรีอยุธยา เพราะเป็นวัดที่ประดิษฐานพระบรมธาตุุใจกลางพระนคร และโดยเฉพาะอย่างยิ่งยังเป็นที่พำนักของ สมเด็จพระสังฆราช ฝ่ายคามวาสีอีกด้วย วัดมหาธาตุ อยุธยา แห่งนี้จึงได้รับการก่อสร้าง และ ดูแลตลอดเวลาจวบจนถูกทำลายลงหลังเสียกรุงครั้งที่ 2 ภายใน วัดมหาธาตุ ประกอบไปด้วย พระปรางค์ขนาดใหญ่ ซึ่งในปัจจุบันพังทลายลงมาหมดแล้ว แต่ราชทูตลังกาที่ได้เคยมาเยี่ยมชมวัดมหาธาตุ ในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศไว้ว่า ที่ฐานของพระปรางค์ มีรูปราชสีห์ หมี หงส์ นกยูง กินนร โค สุนัขป่า กระบือ มังกร เรียงรายอยู่โดยรอบ รูปเหล่านี้อาจหมายถึงสัตว์ในป่าหิมพานต์ที่รายล้อมอยู่เชิงเขาพระสุเมรุ ซึ่งเป็นแกนกลางของจักรวาล. เจดีย์แปดเหลี่ยม เป็นเจดีย์ลดหลั่นกัน 4 ชั้น 8 เหลี่ยม ชั้นบนสุดประดิษฐานปรางค์ขนาดเล็ก ซึ่งเจดีย์องค์นี้จัดว่าเป็นเจดีย์ที่แปลกตา พบเพียงองค์เดียวในอยุธยา วิหารที่ฐานชุกชี ของพระประธานในวิหาร กรมศิลปากรพบว่ามีผู้ลักลอบขุดลงไปลึกถึง 2 เมตร จึงดำเนิน การขุดต่อไปอีก 2 เมตร พบภาชนะดินเผาขนาดเล็ก 5 ใบ บรรจุแผ่นทองเบาๆรูปต่างๆ วิหารเล็ก วิหารเล็กแห่งนี้ มีรากไม้แผ่รากขึ้นเกาะเต็มผนัง รากไม้ส่วนหนึ่งได้ล้อมเศียรพระพุทธรูปไว้ธรรมดา กรมศิลปากรจะต้องตัดต้นไม้ออก แต่ที่นี่ดูจะว่าเป็นที่ยกเว้น พระปรางค์ขนาดกลาง ภายในพระปรางค์ มีภาพจิตรกรรม เรือนแก้ว ซึ่งเป็นตอนหนึ่งในพุทธประวัติ ตำหนักพระสังฆราช บริเวณพื้นที่ว่างทางด้านทิศตะวันตก เป็นสถานที่ที่เป็นที่ตั้งพระตำหนักพระสังฆราช ราชทูตลังกาได้บอกไว้ว่า เป็นตำหนักที่สลักลวดลายปิดทอง มีม่านปักทอง พื้นปูพรม มีขวดปักดอกไม้เรียงรายเป็นแถวเพดานแขวนอัจกลับ (โคม) มีบังลังก์ 2 แห่ง แหล่งท่องเที่ยว สถานที่ สำคัญภายใน วัดมหาธาตุ อยุธยา.วัดโลกยสุธาราม อยุธยา
วัดโลกยสุธาราม อยุธยา ตั้งอยู่ที่ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตั้งอยู่ทางวัดโลกยสุธาราม อยุธยา ด้านหลังพระราชวังหลวง และโรงเรียนประตูชัย ใกล้กับวัดวรโพธิ์ และวัดวรเชษฐาราม วัดโลกยสุธาราม สันนิษฐานว่าได้สร้างขึ้นใน สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง เนื่องจากวัดนี้มี พระพุทธไสยาสน์ ปางไสยาสน์ลักษณะสมัยอยุธยาตอนกลาง ก่ออิฐถือปูน พระพักตร์หันไปทางทิศเหนือ ที่พระเศียรมีดอกบัวรองรับ พระบาทซ้อนกันเป็นมุมฉาก นิ้วพระบาทยาวเท่ากัน มีความยาว 42 เมตร และสูง 8 เมตร
ยินดีต้อนรับสู่ เรือสำราญ ไวท์ ออร์คิด ริเวอร์ ครูซส์ อาหารกลางวัน บุพเฟ่ต์นานาชาติ ชา กาแฟ.
ทัวร์ช่วงบ่าย : ยินดีต้อนรับสู่ เรือสำราญ เจ้าพระยา ไวท์ ออร์คิด ริเวอร์ครูสซ์ เก็บความประทับใจไว้ ไม่รู้ลืม บน เรือสำราญ เรือไวท์ ออร์คิด ริเวอร์ ครูซส์ สัมผัส ประสบการณ์ ล่องเรือ เจ้าพระยา พร้อมอาหารกลางวัน ตื่นตาตื่นใจ ใน ระหว่าง ล่องเรือ ชม ทัศนียภาพ สองฟากฝั่ง แม่น้ำเจ้าพระยา จาก นอกเมือง สู่ เมืองหลวง กรุงเทพมหานคร ผ่าน แหล่งท่องเที่ยว สำคัญทางน้ำ ต่าง ๆ สองริมฝั่ง เจ้าพระยา
โปรแกรม ล่องเรือ อยุธยา เต็มวัน
06.30 น. รับลูกค้าจาก โรงแรม ในกรุงเทพมหานคร (รับเฉพาะบางพื้นที่ และ บางโรงแรม ใน กทม. รบกวสอบถามแผนกรับจอง )
08:00 น. เดินทางจาก กรุงเทพมหานคร โดย รถโค้ชปรับอากาศ ของ เรือไวท์ ออร์คิด ริเวอร์ ครูซส์
09:00 น. รถโค้ชปรับอากาศ ของ เรือไวท์ ออร์คิด ริเวอร์ ครูซส์ นำพาท่าน ถึง พระราชวังบางปะอิน Bangpa in Sumer Palace, ซึ่งมความงดงามแบบสถาปัตยกรรม แบบไทย และ ยุโรป แวดล้อมด้วย ดอกไม้ นานาพันธ์ ประดับประดา ทั่ว พระราชวังบางปะอิน.
10:30 น. หลังจากนั้น เราจะนำพาท่านไปสัมผัส กลิ่นไอ ของ กรุงเก่า อยุธยา เรียนรู้ ประวัติศาสตร์ กับ สถานที่สำคัญต่าง ๆ ของ ประวัติศาสตร์ อยุธยา ดังต่อไป
- วัดมหาธาตุ
- วัดหน้าพระเมรุ
- วัดโลกยาสุธาราม
หลังจาก เที่ยวสถานที่ ท่องเที่ยว สำคัญต่าง ๆ ของ อยุธยา แล้ว โดย มี วัดหน้าพระเมรุ เป็นที่สุดท้าย เราจะนำพาท่าน มุ่งหน้าสู่ ท่าเรือ เรือไวท์ ออร์คิด ริเวอร์ ครูซส์
13.30 น. ถึงท่าเรือ เรือไวท์ ออร์คิด ริเวอร์ ครูซส์ พร้อมนำพาแขกทุกท่าน ลงเรือ พนักงานต้อนรับ ให้ การต้อนรับ ท่าน อันแสนอบอุ่น ด้วยจิตรไมตรี ยิ้มแย้มแจ่มใส และ เรียนเชิญแขกผู้มีเกียรติ ทุกท่าน ประจำที่นั่ง ซึ่งได้ทำการจัดเตรียมไว้เพื่อรองรับท่าน ในการรับประทานอาหารกลางวัน และ ล่องเรือ ชมวิวทิวทัศน์ แม่น้ำเจ้าพระยา กับ เรือไวท์ ออร์คิด ริเวอร์ ครูซส์ ในครั้งนี้ อิ่มอร่อยกับ อาหารกลางวัน แบบบุฟเฟ่ท์ มีทั้งอาหารไทย - ยุโรป ของหวาน และผลไม้ตามฤดูกาล อาหารรสเลิศกับบรรยากาศ ล่องเรือ หรูหรา ตลอดระยะเวลาการ ล่องเรือ เรือไวท์ ออร์คิด ริเวอร์ ครูซส์ บรรยากาศสองผั่งเจ้าพระยายา สัมผัส ธรรมชาติและความสดชื่นจากแม่น้ำ เป็นภาพที่ไม่มีการปรุงแต่งใด ๆ เข้าสู่เมืองผ่าน พระบรมมหาราชวัง และ วัดอรุณฯ พระปรางค์วัดอรุณฯ สร้างมา ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี บริเวณนี้คือพระราชวังเดิมเมื่อครั้งไทยย้ายราชธานีจาก อยุธยา มาตั้งเมืองหลวงเป็นกรุงธนบุรี
15.45 PM. ถึง ท่าเรือ สี่พระยา กรุงเทพมหานคร
ทัวร์ อยุธยา ล่องเรือ ราคา
ผู้ใหญ่ 2200 บาท
เด็ก 1900 บาท
*ราคาเด็ก: อายุต่ำกว่า 9 ปี
ราคานี้ได้รวม
06.30 น. รับลูกค้าจาก โรงแรม ในกรุงเทพมหานคร (รับเฉพาะบางพื้นที่ และ บางโรงแรม ใน กทม. รบกวสอบถามแผนกรับจอง )
08:00 น. เดินทางจาก กรุงเทพมหานคร โดย รถโค้ชปรับอากาศ ของ เรือไวท์ ออร์คิด ริเวอร์ ครูซส์
09:00 น. รถโค้ชปรับอากาศ ของ เรือไวท์ ออร์คิด ริเวอร์ ครูซส์ นำพาท่าน ถึง พระราชวังบางปะอิน Bangpa in Sumer Palace, ซึ่งมความงดงามแบบสถาปัตยกรรม แบบไทย และ ยุโรป แวดล้อมด้วย ดอกไม้ นานาพันธ์ ประดับประดา ทั่ว พระราชวังบางปะอิน.
10:30 น. หลังจากนั้น เราจะนำพาท่านไปสัมผัส กลิ่นไอ ของ กรุงเก่า อยุธยา เรียนรู้ ประวัติศาสตร์ กับ สถานที่สำคัญต่าง ๆ ของ ประวัติศาสตร์ อยุธยา ดังต่อไป
- วัดมหาธาตุ
- วัดหน้าพระเมรุ
- วัดโลกยาสุธาราม
หลังจาก เที่ยวสถานที่ ท่องเที่ยว สำคัญต่าง ๆ ของ อยุธยา แล้ว โดย มี วัดหน้าพระเมรุ เป็นที่สุดท้าย เราจะนำพาท่าน มุ่งหน้าสู่ ท่าเรือ เรือไวท์ ออร์คิด ริเวอร์ ครูซส์
13.30 น. ถึงท่าเรือ เรือไวท์ ออร์คิด ริเวอร์ ครูซส์ พร้อมนำพาแขกทุกท่าน ลงเรือ พนักงานต้อนรับ ให้ การต้อนรับ ท่าน อันแสนอบอุ่น ด้วยจิตรไมตรี ยิ้มแย้มแจ่มใส และ เรียนเชิญแขกผู้มีเกียรติ ทุกท่าน ประจำที่นั่ง ซึ่งได้ทำการจัดเตรียมไว้เพื่อรองรับท่าน ในการรับประทานอาหารกลางวัน และ ล่องเรือ ชมวิวทิวทัศน์ แม่น้ำเจ้าพระยา กับ เรือไวท์ ออร์คิด ริเวอร์ ครูซส์ ในครั้งนี้ อิ่มอร่อยกับ อาหารกลางวัน แบบบุฟเฟ่ท์ มีทั้งอาหารไทย - ยุโรป ของหวาน และผลไม้ตามฤดูกาล อาหารรสเลิศกับบรรยากาศ ล่องเรือ หรูหรา ตลอดระยะเวลาการ ล่องเรือ เรือไวท์ ออร์คิด ริเวอร์ ครูซส์ บรรยากาศสองผั่งเจ้าพระยายา สัมผัส ธรรมชาติและความสดชื่นจากแม่น้ำ เป็นภาพที่ไม่มีการปรุงแต่งใด ๆ เข้าสู่เมืองผ่าน พระบรมมหาราชวัง และ วัดอรุณฯ พระปรางค์วัดอรุณฯ สร้างมา ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี บริเวณนี้คือพระราชวังเดิมเมื่อครั้งไทยย้ายราชธานีจาก อยุธยา มาตั้งเมืองหลวงเป็นกรุงธนบุรี
15.45 PM. ถึง ท่าเรือ สี่พระยา กรุงเทพมหานคร
ทัวร์ อยุธยา ล่องเรือ ราคา
ผู้ใหญ่ 2200 บาท
เด็ก 1900 บาท
*ราคาเด็ก: อายุต่ำกว่า 9 ปี
ราคานี้ได้รวม
- รถโค้ชนำเที่ยวอยุธยา
- มัคคุเทศก์ นำเที่ยว ทัวร์อยุธยา
- ค่าธรรมเนียม ทุกสถานที่ เที่ยวอยุธยา
- อาหาร กลางวัน สไตล์บุฟเฟ่ท์ ไทย นานาชาติบน เรือไวท์ออร์คิด พร้อม ชา กาแฟ
- รถรับ-ส่ง โรงแรม
"หยุดให้บริการล่องเรือชั่วคราว" แนะนำ ทัวร์อยุธยา ล่องเรือ แกรนด์เพิร์ล แทน
เกาะเกร็ด ชุมชน ชาวมอญ
เกาะเกร็ด แหล่งท่องเที่ยว ชื่อดัง จังหวัดนนทบุรี เกาะเกร็ด เป็นเกาะกลางน้ำใน แม่น้ำเจ้าพระยา ตอนล่าง พระเจดีย์มุเตา หรือ “เจดีย์เอียง” ของวัดปรมัยยิกาวาส ตั้งอยู่บริเวณหัวแหลมของเกาะเกร็ด ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นสัญญลักษณ์ ของ เกาะเกร็ด อำเภอปากเกร็ด อายุราว 300 ปี ภายในบรรจุพระธาตุเป็นที่เคารพสักการะของชาวไทยเชื้อสายมอญ เกาะเกร็ด เป็นที่อยู่ของชาวไทยเชื้อสายมอญที่มีอาชีพปั้นเครื่องปั้นดินเผาเป็นส่วนใหญ่ เกาะเกร็ดเกิดจากการขุดคลองลัดแม่น้ำเจ้าพระยาเมื่อปี พ.ศ. 2265 คลองลัดดังกล่าวเรียกว่า "คลองลัดเกร็ดน้อย" หรือ "คลองเตร็ดน้อย" เกาะเกร็ดเป็นย่านชุมชนที่มีความเจริญมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย เป็นทั้งชุมชนค้าขายและเป็นที่ตั้งด่านตรวจเรือต่าง ๆ ที่จะเดินทางผ่านไปยังอยุธยา เมื่อครั้งคราวในอดีต ปัจจุบัน เกาะเกร็ด เป็น แหล่งท่องเที่ยว ชื่อดัง ของ จังหวัด นนทบุรี
สะพานพระราม 8
สะพานพระราม 8 เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งที่ 13 ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีแนวสายทางเชื่อมต่อกับทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณโรงงานสุราบางยี่ขัน เขตบางพลัด บรรจบกับปลายถนนวิสุทธิกษัตริย์ ใกล้กับธนาคารแห่งประเทศไทย เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร สะพานพระราม 8 นี้เกิดจากพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 พระองค์มีพระราชดำริให้กรุงเทพมหานครก่อสร้าง สะพานข้าม แม่น้ำเจ้าพระยา เพิ่มอีก 1 แห่ง เพื่อบรรเทาการจราจรบน สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า รองรับการเดินทางเชื่อมต่อระหว่างฝั่งพระนครกับฝั่งธนบุรี และเป็นจุดเชื่อมต่อโครงการพระราชดำริตามแนวจตุรทิศ สะพานพระราม 8 ช่วยเชื่อมการเดินทางระหว่างฝั่งพระนครกับฝั่งธนบุรีให้สะดวกสบายขึ้น ซึ่งจะช่วยระบายรถบนสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าได้ถึง 30% และบนสะพานกรุงธน อีก 20% และยังสามารถลดมลพิษทางอากาศบริเวณในเมือง โดยเริ่มเปิดให้ใช้ตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2545 เวลา 7:00 น. เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน.
วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร
วัดระฆังโฆสิตาราม ชื่อเต็ม วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร หรือ วัดระฆัง,วัดหลวงพ่อโต ตั้งอยู่เลขที่ 250 แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร วัดแห่งนี้เป็นวัดโบราณ สร้างในสมัยอยุธยา เดิมชื่อ วัดบางว้าใหญ่ (หรือบางหว้าใหญ่) ในสมัยธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงสร้างพระราชวังใกล้วัดบางว้าใหญ่ โปรดเกล้าฯ ให้ยกเป็นพระอารามหลวงและเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราช ในสมัยรัตนโกสินทร์ “วัดระฆังโฆสิตาราม” นอกจากเป็นเพราะขุดพบระฆังที่วัดนี้และเพื่อฟื้นฟูแบบแผนครั้งกรุงศรีอยุธยาที่มีวัดชื่อวัดระฆังเช่นกัน ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อ “วัดระฆังโฆสิตาราม” ภายในวัด มีหอพระไตรปิฎกซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามมาก เคยเป็นพระตำหนักและหอประทับนั่งของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชขณะทรงรับราชการในสมัยธนบุรี และโปรดเกล้าฯ ให้รื้อมาถวายวัด เมื่อเสด็จขึ้นครองราชสมบัติแล้ว มีพระราชประสงค์จะบูรณปฏิสังขรณ์ให้สวยงามเพื่อเป็นหอพระไตรปิฎก วัดระฆัง เป็น วัดท่องเที่ยว ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีประวัติศาสตร์คู่คนไทยมานมนาน.
พระบรมหาราชวัง วัดพระแก้ว
พระบรมมหาราชวัง ทิวทัศน์ สวยงาม ตระการตา คู่ ริมน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา วัดพระแก้ว หรือ พระราชวังพระนคร เป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์สมัยรัตนโกสินทร์ ตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ตั้งอยู่ที่แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ปัจจุบัน พระบรมมหาราชวัง เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับ ของโลก ที่นักท่องเที่ยว นิยมมา เมื่อมาถึงประเทศไทย นักท่องเที่ยว ต้องมา เที่ยวพระบรมหาราชวัง หรือ วัดพระแก้ว แห่งนี้ พระบรมมหาราชวัง วัดพระแก้ว ตั้งอยู่พื้นที่ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร โดยมีอาณาเขตติดต่อกับสถานที่สำคัญลักษณะเรียงตามเข็มนาฬิกาดังนี้ ทิศเหนือ ติดกับท้องสนามหลวง ทิศตะวันออก ติดกับกระทรวงกลาโหม ทิศใต้ ติดกับ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร หรือ วัดโพธิ์ ทิศตะวันตก ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา
วัดอรุณราชวราราม หรือ วัดแจ้ง
วัดอรุณ, วัดอรุณราชวราราม หรือที่นิยมเรียกกันในภาษาพูดว่า วัดแจ้ง หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า วัดอรุณ เป็นวัดโบราณ สร้างในสมัยอยุธยา ว่ากันว่าเดิมเรียกว่า วัดมะกอก และกลายเป็นวัดมะกอกนอกในเวลาต่อมา เพราะได้มีการสร้างวัดขึ้นอีกวัดหนึ่งในตำบลเดียวกัน แต่อยู่ในคลองบางกอกใหญ่ ชาวบ้านเรียกวัดที่สร้างใหม่ว่า วัดมะกอกใน (วัดนวลนรดิศ) แล้วจึงเรียกวัดมะกอกซึ่งอยู่ปากคลองบางกอกใหญ่ว่า วัดมะกอกนอก ส่วนเหตุที่มีการเปลี่ยนชื่อเป็นวัดแจ้งนั้น เชื่อกันว่า เมื่อ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงตั้งราชธานีที่กรุงธนบุรีใน พ.ศ. 2310 ได้เสด็จมาถึงหน้าวัดนี้ตอนรุ่งแจ้ง จึงพระราชทานชื่อใหม่ว่า วัดแจ้ง แต่ความเชื่อนี้ไม่ถูกต้อง เพราะเพลงยาวหม่อมภิมเสน วรรณกรรมสมัยอยุธยาที่บรรยายการเดินทางจากอยุธยาไปยังเพชรบุรี ได้ระบุชื่อวัดนี้ไว้ว่าชื่อวัดแจ้งตั้งแต่เวลานั้นแล้ว เมื่อในสมัยรัตนโกสินทร์ รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร ได้เสด็จมาประทับที่พระราชวังเดิม และได้ทรงปฏิสังขรณ์วัดแจ้งใหม่ทั้งวัด แต่ยังไม่ทันสำเร็จก็สิ้นรัชกาลที่ 1 สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทรได้เสด็จขึ้นครองราชสมบัติเป็นพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระองค์ได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์วัดแจ้งต่อมา และพระราชทานนามใหม่ว่า “วัดอรุณราชธาราม”
วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร
วัดกัลยามิตร หรือชื่อเต็ม วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร หรือ "วัดกัลยา" วัดหลวงพ่อโต ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งธนบุรี บริเวณปากคลองบางกอกใหญ่ฝั่งใต้ เจ้าพระยานิกรบดินทร์ (โต) ต้นสกุลกัลยาณมิตร ว่าที่สมุหนายก ได้อุทิศบ้านและที่ดินบริเวณใกล้เคียง ซึ่งแต่เดิมเป็นหมู่บ้านที่มีภิกษุจีนพำนักอยู่ และเรียกกันต่อมาว่า "หมู่บ้านกุฎีจีน" สร้างเป็นวัดขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๓๖๘ และน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระอารามหลวง พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ พระราชทานนามว่า "วัดกัลยาณมิตร" และทรงสร้างพระวิหารหลวงและพระประธานพระราชทาน เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ชื่อ พระพุทธไตรรัตนนายก หรือ หลวงพ่อโต ด้วยมีพระประสงค์จะให้เหมือนกรุงเก่า คือมีพระโตอยู่นอกกำแพงเมือง อย่างเช่นวัดพนัญเชิง หลวงพ่อโต วัดกัลยามิตร เป็นที่เคารพสักการะอย่างสูง โดยเฉพาะในหมู่ชาวจีน เรียกชื่อแบบจีนว่า ซำปอฮุดกง หรือ ซำปอกง วัดกัลยามิตร เป็นวัดเดียวในประเทศไทยที่มีพระประธานเป็นพระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังแสดงพุทธประวัติ และแสดงชีวิตชาวบ้านในสมัยรัชกาลที่ ๓
สะพานพุทธ
สะพานพุทธ หรือ สะพานพระพุทธยอดฟ้า หรืออีกชื่อที่เป็นทางการ สะพานปฐมบรมราชานุสรณ์ สะพานพระพุทธยอดฟ้า เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่เชื่อมการคมนาคมติดต่อระหว่างฝั่งพระนครกับฝั่งธนบุรีของกรุงเทพมหานคร ที่ปลายถนนตรีเพชร แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กับปลายถนนประชาธิปก แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี ปัจจุบันสะพานแห่งนี้อยู่ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวงชนบท สะพานพระพุทธยอดฟ้า เป็นสะพานที่สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) เมื่อปี พ.ศ. 2472 เนื่องในโอกาสสถาปนากรุงเทพมหานครครบ 150 ปี และโปรดเกล้าฯ ให้มีพระราชพิธีฉลองพระนครครบ 150 ปี ด้วยพระราชดำริที่จะสร้างสิ่งที่เป็นอนุสรณ์ถึงความรำลึกในพระกรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ผู้ทรงสถาปนากรุงเทพมหานคร
โบสถ์ซางตาครู้ส วัดซางตาครู้ส หรือ วัดกุฎีจีน
วัดซางตาครู้สเป็น คริสต์ศาสนสถาน เก่าแก่ อายุนับร้อยปี ที่อยู่คู่กับชุมชนกุฎีจีนเก่าแก่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณด้านหน้าวัด หันออกสู่ แม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณที่ตั้งของ วัดซางตาครู้ส อยู่ใกล้กับพระราชวังเดิม สมัยธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชพระราชทานที่ดินให้แก่ชาวโปรตุเกสซึ่งร่วมทำการศึกต่อต้านพม่าจนได้รับชัยชนะ ก่อตั้งโดย นักบวชชาวโปรตุเกส โบสถ์ซางตาครู้ส มีสถาปัตยกรรมที่เป็นโดมแบบอิตาลีที่โดดเด่น คล้ายคลึงกับ ยอดโดมมหาวิหารฟลอเรนซ์ ที่งดงามคู่ แม่น้ำเจ้าพระยา.
โรงแรม ริมน้ำเจ้าพระยา 5 ดาว
ความสวยงาม ของสถาปัตยกรรม สิ่งก่อสร้าง ของ โรงแรม รีสอร์ท ริมน้ำ เจ้าพระยา ทำให้เกิดทัศนีย์ภาพ สวยงาม คู่ แม่น้ำเจ้าพระยา อาทิเช่น โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน โรงแรมแมนดาริน โอเรียลเต็ล โรงแรมเพนนินซูลา โรงแรมแชงกรี-ลา
เกาะเกร็ด แหล่งท่องเที่ยว ชื่อดัง จังหวัดนนทบุรี เกาะเกร็ด เป็นเกาะกลางน้ำใน แม่น้ำเจ้าพระยา ตอนล่าง พระเจดีย์มุเตา หรือ “เจดีย์เอียง” ของวัดปรมัยยิกาวาส ตั้งอยู่บริเวณหัวแหลมของเกาะเกร็ด ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นสัญญลักษณ์ ของ เกาะเกร็ด อำเภอปากเกร็ด อายุราว 300 ปี ภายในบรรจุพระธาตุเป็นที่เคารพสักการะของชาวไทยเชื้อสายมอญ เกาะเกร็ด เป็นที่อยู่ของชาวไทยเชื้อสายมอญที่มีอาชีพปั้นเครื่องปั้นดินเผาเป็นส่วนใหญ่ เกาะเกร็ดเกิดจากการขุดคลองลัดแม่น้ำเจ้าพระยาเมื่อปี พ.ศ. 2265 คลองลัดดังกล่าวเรียกว่า "คลองลัดเกร็ดน้อย" หรือ "คลองเตร็ดน้อย" เกาะเกร็ดเป็นย่านชุมชนที่มีความเจริญมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย เป็นทั้งชุมชนค้าขายและเป็นที่ตั้งด่านตรวจเรือต่าง ๆ ที่จะเดินทางผ่านไปยังอยุธยา เมื่อครั้งคราวในอดีต ปัจจุบัน เกาะเกร็ด เป็น แหล่งท่องเที่ยว ชื่อดัง ของ จังหวัด นนทบุรี
สะพานพระราม 8
สะพานพระราม 8 เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งที่ 13 ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีแนวสายทางเชื่อมต่อกับทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณโรงงานสุราบางยี่ขัน เขตบางพลัด บรรจบกับปลายถนนวิสุทธิกษัตริย์ ใกล้กับธนาคารแห่งประเทศไทย เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร สะพานพระราม 8 นี้เกิดจากพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 พระองค์มีพระราชดำริให้กรุงเทพมหานครก่อสร้าง สะพานข้าม แม่น้ำเจ้าพระยา เพิ่มอีก 1 แห่ง เพื่อบรรเทาการจราจรบน สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า รองรับการเดินทางเชื่อมต่อระหว่างฝั่งพระนครกับฝั่งธนบุรี และเป็นจุดเชื่อมต่อโครงการพระราชดำริตามแนวจตุรทิศ สะพานพระราม 8 ช่วยเชื่อมการเดินทางระหว่างฝั่งพระนครกับฝั่งธนบุรีให้สะดวกสบายขึ้น ซึ่งจะช่วยระบายรถบนสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าได้ถึง 30% และบนสะพานกรุงธน อีก 20% และยังสามารถลดมลพิษทางอากาศบริเวณในเมือง โดยเริ่มเปิดให้ใช้ตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2545 เวลา 7:00 น. เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน.
วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร
วัดระฆังโฆสิตาราม ชื่อเต็ม วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร หรือ วัดระฆัง,วัดหลวงพ่อโต ตั้งอยู่เลขที่ 250 แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร วัดแห่งนี้เป็นวัดโบราณ สร้างในสมัยอยุธยา เดิมชื่อ วัดบางว้าใหญ่ (หรือบางหว้าใหญ่) ในสมัยธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงสร้างพระราชวังใกล้วัดบางว้าใหญ่ โปรดเกล้าฯ ให้ยกเป็นพระอารามหลวงและเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราช ในสมัยรัตนโกสินทร์ “วัดระฆังโฆสิตาราม” นอกจากเป็นเพราะขุดพบระฆังที่วัดนี้และเพื่อฟื้นฟูแบบแผนครั้งกรุงศรีอยุธยาที่มีวัดชื่อวัดระฆังเช่นกัน ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อ “วัดระฆังโฆสิตาราม” ภายในวัด มีหอพระไตรปิฎกซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามมาก เคยเป็นพระตำหนักและหอประทับนั่งของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชขณะทรงรับราชการในสมัยธนบุรี และโปรดเกล้าฯ ให้รื้อมาถวายวัด เมื่อเสด็จขึ้นครองราชสมบัติแล้ว มีพระราชประสงค์จะบูรณปฏิสังขรณ์ให้สวยงามเพื่อเป็นหอพระไตรปิฎก วัดระฆัง เป็น วัดท่องเที่ยว ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีประวัติศาสตร์คู่คนไทยมานมนาน.
พระบรมหาราชวัง วัดพระแก้ว
พระบรมมหาราชวัง ทิวทัศน์ สวยงาม ตระการตา คู่ ริมน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา วัดพระแก้ว หรือ พระราชวังพระนคร เป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์สมัยรัตนโกสินทร์ ตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ตั้งอยู่ที่แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ปัจจุบัน พระบรมมหาราชวัง เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับ ของโลก ที่นักท่องเที่ยว นิยมมา เมื่อมาถึงประเทศไทย นักท่องเที่ยว ต้องมา เที่ยวพระบรมหาราชวัง หรือ วัดพระแก้ว แห่งนี้ พระบรมมหาราชวัง วัดพระแก้ว ตั้งอยู่พื้นที่ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร โดยมีอาณาเขตติดต่อกับสถานที่สำคัญลักษณะเรียงตามเข็มนาฬิกาดังนี้ ทิศเหนือ ติดกับท้องสนามหลวง ทิศตะวันออก ติดกับกระทรวงกลาโหม ทิศใต้ ติดกับ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร หรือ วัดโพธิ์ ทิศตะวันตก ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา
วัดอรุณราชวราราม หรือ วัดแจ้ง
วัดอรุณ, วัดอรุณราชวราราม หรือที่นิยมเรียกกันในภาษาพูดว่า วัดแจ้ง หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า วัดอรุณ เป็นวัดโบราณ สร้างในสมัยอยุธยา ว่ากันว่าเดิมเรียกว่า วัดมะกอก และกลายเป็นวัดมะกอกนอกในเวลาต่อมา เพราะได้มีการสร้างวัดขึ้นอีกวัดหนึ่งในตำบลเดียวกัน แต่อยู่ในคลองบางกอกใหญ่ ชาวบ้านเรียกวัดที่สร้างใหม่ว่า วัดมะกอกใน (วัดนวลนรดิศ) แล้วจึงเรียกวัดมะกอกซึ่งอยู่ปากคลองบางกอกใหญ่ว่า วัดมะกอกนอก ส่วนเหตุที่มีการเปลี่ยนชื่อเป็นวัดแจ้งนั้น เชื่อกันว่า เมื่อ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงตั้งราชธานีที่กรุงธนบุรีใน พ.ศ. 2310 ได้เสด็จมาถึงหน้าวัดนี้ตอนรุ่งแจ้ง จึงพระราชทานชื่อใหม่ว่า วัดแจ้ง แต่ความเชื่อนี้ไม่ถูกต้อง เพราะเพลงยาวหม่อมภิมเสน วรรณกรรมสมัยอยุธยาที่บรรยายการเดินทางจากอยุธยาไปยังเพชรบุรี ได้ระบุชื่อวัดนี้ไว้ว่าชื่อวัดแจ้งตั้งแต่เวลานั้นแล้ว เมื่อในสมัยรัตนโกสินทร์ รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร ได้เสด็จมาประทับที่พระราชวังเดิม และได้ทรงปฏิสังขรณ์วัดแจ้งใหม่ทั้งวัด แต่ยังไม่ทันสำเร็จก็สิ้นรัชกาลที่ 1 สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทรได้เสด็จขึ้นครองราชสมบัติเป็นพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระองค์ได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์วัดแจ้งต่อมา และพระราชทานนามใหม่ว่า “วัดอรุณราชธาราม”
วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร
วัดกัลยามิตร หรือชื่อเต็ม วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร หรือ "วัดกัลยา" วัดหลวงพ่อโต ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งธนบุรี บริเวณปากคลองบางกอกใหญ่ฝั่งใต้ เจ้าพระยานิกรบดินทร์ (โต) ต้นสกุลกัลยาณมิตร ว่าที่สมุหนายก ได้อุทิศบ้านและที่ดินบริเวณใกล้เคียง ซึ่งแต่เดิมเป็นหมู่บ้านที่มีภิกษุจีนพำนักอยู่ และเรียกกันต่อมาว่า "หมู่บ้านกุฎีจีน" สร้างเป็นวัดขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๓๖๘ และน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระอารามหลวง พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ พระราชทานนามว่า "วัดกัลยาณมิตร" และทรงสร้างพระวิหารหลวงและพระประธานพระราชทาน เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ชื่อ พระพุทธไตรรัตนนายก หรือ หลวงพ่อโต ด้วยมีพระประสงค์จะให้เหมือนกรุงเก่า คือมีพระโตอยู่นอกกำแพงเมือง อย่างเช่นวัดพนัญเชิง หลวงพ่อโต วัดกัลยามิตร เป็นที่เคารพสักการะอย่างสูง โดยเฉพาะในหมู่ชาวจีน เรียกชื่อแบบจีนว่า ซำปอฮุดกง หรือ ซำปอกง วัดกัลยามิตร เป็นวัดเดียวในประเทศไทยที่มีพระประธานเป็นพระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังแสดงพุทธประวัติ และแสดงชีวิตชาวบ้านในสมัยรัชกาลที่ ๓
สะพานพุทธ
สะพานพุทธ หรือ สะพานพระพุทธยอดฟ้า หรืออีกชื่อที่เป็นทางการ สะพานปฐมบรมราชานุสรณ์ สะพานพระพุทธยอดฟ้า เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่เชื่อมการคมนาคมติดต่อระหว่างฝั่งพระนครกับฝั่งธนบุรีของกรุงเทพมหานคร ที่ปลายถนนตรีเพชร แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กับปลายถนนประชาธิปก แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี ปัจจุบันสะพานแห่งนี้อยู่ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวงชนบท สะพานพระพุทธยอดฟ้า เป็นสะพานที่สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) เมื่อปี พ.ศ. 2472 เนื่องในโอกาสสถาปนากรุงเทพมหานครครบ 150 ปี และโปรดเกล้าฯ ให้มีพระราชพิธีฉลองพระนครครบ 150 ปี ด้วยพระราชดำริที่จะสร้างสิ่งที่เป็นอนุสรณ์ถึงความรำลึกในพระกรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ผู้ทรงสถาปนากรุงเทพมหานคร
โบสถ์ซางตาครู้ส วัดซางตาครู้ส หรือ วัดกุฎีจีน
วัดซางตาครู้สเป็น คริสต์ศาสนสถาน เก่าแก่ อายุนับร้อยปี ที่อยู่คู่กับชุมชนกุฎีจีนเก่าแก่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณด้านหน้าวัด หันออกสู่ แม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณที่ตั้งของ วัดซางตาครู้ส อยู่ใกล้กับพระราชวังเดิม สมัยธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชพระราชทานที่ดินให้แก่ชาวโปรตุเกสซึ่งร่วมทำการศึกต่อต้านพม่าจนได้รับชัยชนะ ก่อตั้งโดย นักบวชชาวโปรตุเกส โบสถ์ซางตาครู้ส มีสถาปัตยกรรมที่เป็นโดมแบบอิตาลีที่โดดเด่น คล้ายคลึงกับ ยอดโดมมหาวิหารฟลอเรนซ์ ที่งดงามคู่ แม่น้ำเจ้าพระยา.
โรงแรม ริมน้ำเจ้าพระยา 5 ดาว
ความสวยงาม ของสถาปัตยกรรม สิ่งก่อสร้าง ของ โรงแรม รีสอร์ท ริมน้ำ เจ้าพระยา ทำให้เกิดทัศนีย์ภาพ สวยงาม คู่ แม่น้ำเจ้าพระยา อาทิเช่น โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน โรงแรมแมนดาริน โอเรียลเต็ล โรงแรมเพนนินซูลา โรงแรมแชงกรี-ลา