เรือมหาเภตรา ดินเนอร์ เจ้าพระยา
เรือมหาเภตรา เจ้าพระยา ล่องเรือเจ้าพระยา เรือไม้ ทรงไทย สุดคลาสสิค อาหารไทย ฟังดนตรีไทย บรรเลงขิม ขับกล่อม กลางเจ้าพระยา
มหาเภตรา เจ้าพระยา ล่องเรือดินเนอร์ เรือไม้ทรงไทย เจ้าพระยา ดินเนอร์ ใต้แสงเทียน ยามค่ำคืน ในบรรยากาศ อันน่าหลงใหล สัมผัสเสน่ห์ ยามเย็น แห่ง แม่น้ำเจ้าพระยา กรุงเทพ ชมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของกรุงเทพฯ สองฝั่ง ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บน เรือมหาเภตรา อิ่มอร่อยอาหารเลิศรส แบบเซ็ตเมนู อาหารค่ำแบบไทย ๆ เช่น ถุงทอง แตงโมปลาแห้ง สลัดผลไม้ กุ้งเทมปุระ ซุปปลาแซลมอลรมควัน สเต็กหมูสันในซอสไวน์แดง แกงเผ็ดเป็ดย่างลิ้นจี่ พร้อม ข้าวสวย ข้าวเหนียวมะม่วง ผลไม้ตามฤดูกาล และ ชา กาแฟ. เรือหาเภตรา จะนำพาท่าน ล่องเรือ ชมทัศนียภาพอันงดงามของสถานที่อันเป็นสัญลักษณ์ เช่น วัดอรุณรุ่ง สะพานพระบรมมหาราชวัง พระราม 8 และสถานที่ท่องเที่ยว ริมแม่น้ำเจ้าพระยา อีกมากมาย ออกเดินทางทุกวัน 19.30 น.- 21.30 น
มหาเภตรา เจ้าพระยา
เรือไทย แม่น้ำเจ้าพระยา มหาเภตรา ไรน์บาจน์ ทรงไทย 2 ชั้น บรรยากาศแบบไทยๆ ชมวิว สองฝั่ง เจ้าพระยา ยลสถาปัตยกรรม อันงามล้ำ สองฝั่ง แม่น้ำแห่งแผ่นดิน เจ้าพระยา บางกอก
มหาเภตรา ดินเนอร์ อาหารไทย เจ้าพระยา
สัมผัสบรรกาศ ดินเนอร์ เจ้าพระยา ยามเย็น ลมโชย กลางเจ้าพระยา อิ่มอร่อย กับ ชุดเมนูอาหารไทยเลิศรส ที่มีรสชาติต้นตำรับแบบไทยๆ ชมวิวสองฝั่ง แม่น้ำเจ้าพระยา บน เรือไม้ ทรงไทย คลาสสิค เรือมหาเภตรา เจ้าพระยา ประกอบด้วย 2 ชั้น ชั้น 1 เป็น ชั้นปรับอากาศ และ ชั้น 2 เป็นดาดฟ้า ชั้นบน แบบเปิดโล่ง ชมทิวทัศน์อันงดงามของ แม่น้ำเจ้าพระยา ทั้งสองฝั่ง ได้แบบมุมกว้าง 360 องศา ไม่บดบังสายตา
ล่องเรือ ดินเนอร์ ใต้แสงเทียน เรือไรซ์บาร์จ ไม้ทรงไทย คลาสสิค เมื่อยามพระอาทิตย์อัสดง แม่น้ำเจ้าพระยา แสงสีสรร อันทรงเสน่ห์ ของ กรุงเทพมหานคร ก็จะกลับกลายเป็นเมืองแห่งแสง อันน่าหลงใหล ในยามค่ำคืน ดื่มด่ำกับ ประสบการณ์โรแมนติก อย่างแท้จริงด้วยการ ล่องเรือ ดินเนอร์ คลาสสิค แบบไทยๆ กับบรรยากาศ ที่ไม่ผู้คนไม่พลุกพล่าน บนเรือ รับประทานอาหารค่ำ ใต้แสงเทียน กลางลำน้ำเจ้าพระยา บรรยากาศ ล่องเรือ มหาเภตรา เรือไม้ ทรงไทย อิ่มอร่อยกับเมนูเลิศรส ดินเนอร์ อาหารค่ำ แบบไทยเซ็ตเมนู บริกร เสิร์ฟที่โต๊ะ เรือมหาเภตรา จะ ล่องเรือ ผ่าน ทิวทัศน์อันสวยงาม ทั้งสองฟากฝั่ง แม่น้ำเจ้าพระยา ล่องเรือ ดินเนอร์ ใต้แสงเทียน ถือเป็นโอกาสในการ สร้างความทรงจำอันแสนหวาน กับ คนที่คุณรัก หรือ ความอบอุ่น กับครอบครัว ที่คุณรัก เชิญท่านมาเยือน เรือมหาเภตรา สักครั้ง เพื่อเก็บความทรงจำ อันแสนประทับใจ บน เรือไทย สุดคลาสสิค มหาเภตรา ครูสซ์
ดินเนอร์ เซ็ตเมนู เสิร์ฟบนเรือ
- ถุงทอง Fried Bag Dumplings
- แตงโมปลาแห้ง Dried Fish with Watermelon
- สลัดผลไม้กุ้งเทมปุระ Fruits Salad with Shrimp Tempura
- ซุปปลาแซลมอลรมควัน Smoked Salmon Cream Soup
- สเต็กหมูสันในซอสไวน์แดง Pork Tenderloin Red Wine Sauce
- แกงเผ็ดเป็ดย่างลิ้นจี่พร้อมข้าวสวย Roast Duck Red Curry with Lychee Served with Steamed Rice
- ข้าวเหนียวมะม่วง Mango with Sticky rice
- ผลไม้ตามฤดูกาล Fresh Seasonal fruits
- ชา กาแฟ Coffee & Tea
เรือมหาเภตรา รองรับจำนวน : 60 ท่าน
แบ่งออกเป็น 2 ชั้น;
- ชั้น 1 เป็นห้องแอร์ รองรับได้ 32 ท่าน
- ชั้น 2 เป็นแบบ Open Air เปิดโล่ง ไม่มีหลังคา รองรับได้ 28 ท่าน
เวลาล่องเรือ
การเช็คอิน
- เช็คอินล่วงหน้า 30 นาที จุดเช็คอิน ระบุใน Tour Voucher
- โชว์ Tour Voucher บน มือถือ เพื่อเช็คอิน กับ เจ้าหน้าที่เรือ
- Tour Voucher แผนที่ จุดเช็คอิน จะส่งให้ทางเมลล์, line หลังจากยืนยันการจอง และ ชำระเรียบร้อยแล้วเท่านั้น.
ล่องเรือ ดินเนอร์ เจ้าพระยา
- 19.00 น. เช็คอินที่ จุดเช็คอิน สี่พระยา (รายละเอียดดูใน เอกสารเช็คอิน Tour Voucher)
- 19.30 น. ยินดีต้อนรับสู่ เรือมหาเภตรา ด้วยบรรยากาศ แบบไทยๆ คละเคล้าเสียงดนตรี การบรรเลงขิม บริกร ต้อนรับแขกทุกท่าน พร้อม เครื่องดื่ม เวลคัมดริ้งค์ และ บริกร จะเสิร์ฟอาหารแบบเซ็ตเมนู ในขณะเดียวกัน เรือมหาเภตรา จะนำพาท่าน ล่องเรือ มุ่งหน้าสู่ จุดหมายปลายทาง สะพานพระราม 8 โดย จะล่องเรือ ผ่านสถานที่สำคัญ ต่างๆ เช่น โบสถ์กาลหว่าร์ วัดแม่พระลูกประคำ วัดซางตาครู้ส วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร พระบรมมหาราชวัง วัดพระแก้ว สะพานพระราม 8 แล้ว เรือมหาเภตรา จะนำพาท่าน ล่องเรือ กลับมาเส้นทางเดิม จะผ่าน สะพานพระพุทธยอดฟ้า โรงแรม 5 ดาว,ไอคอนสยาม และ เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์
- 21.30 น. เรือมหาเภตรา จะนำพาท่าน เทียบเรือ ที่ ท่าเรือ สี่พระยา ทุกท่านเดินทางกลับโดยสวัสดิ์ภาพ
ราคา/ท่าน
ผู้ใหญ่ 1,800 บาท
เด็ก 1,400 บาท
*ราคาเด็กต่ำกว่า 9 ปีลงมา
ราคานี้ได้รวม
- เวลคัมดริ้งค์
- อาหารเซ็ตเมนู เสิร์ฟที่โต๊ะ
- การแสดงบรรเลงขิม ดนตรีไทย
- ล่องเรือ เจ้าพระยา
คลิ๊กจองที่นี่ BOOKING NOW
ราคานี้ไม่รวม
- เครื่องดื่ม แอลกอฮอล์,น้ำผลไม้
- ค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น การให้ทิป พนักงานบริกร
ราคานี้ไม่สามารถใช้ได้ใน เทศกาล วันพิเศษ ต่่าง ๆ เช่น
- วันวาเลนไทน์ ดินเนอร์ 14 กุมภาพันธ์
- วันลอยกระทง ดินเนอร์
- ปีใหม่ ดินเนอร์ เค้าท์ดาวน์ 31 ธันวาคม
ล่องเรือ มหาเภตรา เจ้าพระยา ชมทัศนียภาพ ความสวยงาม ของสถานที่ แหล่งท่องเที่ยว สองฝั่ง แม่น้ำเจ้าพระยา ยามค่ำคืน
- โบสถ์กาลหว่าร์ วัดแม่พระลูกประคำ
โบสถ์กาลหว่าร์ หรือ วัดแม่พระลูกประคำ เป็นโบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ทรงกอทิก ริมน้ำเจ้าพระยา โบสถ์กาลหว่าร์ ก่อตั้งขึ้นโดย นักบวชชาวโปรตุเกส ถือเป็นโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน โบสถ์กาลหว่าร์ได้ขึ้นทะเบียนอนุรักษ์เป็นโบราณสถานโดยกรมศิลปากรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โบสถ์กาลหว่าร์ แห่งนี้มีจุดเด่นที่สำคัญคือ รูปปั้น 2 รูปซึ่งเป็นสมบัติเก่าแก่ตั้งแต่การเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง ได้แก่ "รูปแม่พระลูกประคำ" และ "รูปพระศพของพระเยซูเจ้า" โดยทั้งหมดนี้ยังคงเก็บรักษาและใช้ในพิธีกรรมทาง คริสต์ศาสนา จนถึงปัจจุบัน
- โบสถ์ซางตาครู้ส วัดซางตาครู้ส หรือ วัดกุฎีจีน
วัดซางตาครู้สเป็น คริสต์ศาสนสถาน เก่าแก่ อายุนับร้อยปี ที่อยู่คู่กับชุมชนกุฎีจีนเก่าแก่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณด้านหน้าวัด หันออกสู่ แม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณที่ตั้งของ วัดซางตาครู้ส อยู่ใกล้กับพระราชวังเดิม สมัยธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชพระราชทานที่ดินให้แก่ชาวโปรตุเกสซึ่งร่วมทำการศึกต่อต้านพม่าจนได้รับชัยชนะ ก่อตั้งโดย นักบวชชาวโปรตุเกส โบสถ์ซางตาครู้ส มีสถาปัตยกรรมที่เป็นโดมแบบอิตาลีที่โดดเด่น คล้ายคลึงกับ ยอดโดมมหาวิหารฟลอเรนซ์ ที่งดงามคู่ แม่น้ำเจ้าพระยา
วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร หรือ "วัดกัลยาณ์" ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งธนบุรี บริเวณปากคลองบางกอกใหญ่ฝั่งใต้ เจ้าพระยานิกรบดินทร์ (โต) ต้นสกุล กัลยาณมิตร ว่าที่สมุหนายก ได้อุทิศบ้านและที่ดินบริเวณใกล้เคียง ซึ่งแต่เดิมเป็นหมู่บ้านที่มีภิกษุจีนพำนักอยู่ และเรียกกันต่อมาว่า "หมู่บ้านกุฎีจีน" สร้างเป็นวัดขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๓๖๘ และน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระอารามหลวง พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ พระราชทานนามว่า "วัดกัลยาณมิตร" และทรงสร้างพระวิหารหลวงและพระประธานพระราชทาน เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ชื่อ พระพุทธไตรรัตนนายก หรือ หลวงพ่อโต ด้วยมีพระประสงค์จะให้เหมือนกรุงเก่า คือมีพระโตอยู่นอกกำแพงเมือง อย่างเช่นวัดพนัญเชิง หลวงพ่อโตเป็นที่เคารพสักการะอย่างสูง โดยเฉพาะในหมู่ชาวจีน เรียกชื่อแบบจีนว่า ซำปอฮุดกง หรือ ซำปอกง หน้าวิหารหลวงเป็นหอระฆังที่เพิ่งสร้างใหม่ เก็บระฆังยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดของไทย
- วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร
พระปรางค์ ที่สวยสง่างาม ได้รับการพัฒนาจาก ปรางค์ขอม ให้มีทรวดทรงสวยงามตามอุดมคติไทย แสดงให้เห็นอัจฉริยภาพของช่างไทยแต่โบราณในการปรับเปลี่ยนรูปแบบทางศิลปะให้สอดคล้องกับรสนิยมแบบไทย พระปรางค์วัดอรุณ ความสวยงาม คู่กับแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นสัญลักษณ์ แห่งการท่องเที่ยวประเทศไทย. วัดอรุณราชวราราม หรือที่นิยมเรียกกันในภาษาพูดว่า วัดแจ้ง หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า วัดอรุณ เป็นวัดโบราณ สร้างในสมัยกรุงธนบุรี ที่ชื่อวัดแจ้ง เพราะ พระเจ้าตากฯ ทำศึกเสร็จ แล้วยกทัพกลับมาเป็นเวลาเช้าพอดี ว่ากันว่าเดิมเรียกว่า วัดมะกอก ต่อมาได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็นวัดแจ้งนั้น เชื่อกันว่า เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงตั้งราชธานีที่กรุงธนบุรีใน พ.ศ. 2310 ได้เสด็จมาถึงหน้าวัดนี้ตอนรุ่งแจ้ง จึงพระราชทานชื่อใหม่ว่าวัดแจ้ง ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้บูรณปฏิสังขรณ์วัดอรุณราชธารามหลายรายการ และให้อัญเชิญพระบรมอัฐิของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยมาบรรจุไว้ที่พระพุทธอาสน์ของพระประธานในพระอุโบสถด้วย เมื่อการปฏิสังขรณ์เสร็จสิ้นลง พระราชทานนามวัดใหม่ว่า “วัดอรุณราชวราราม”
- พระบรมมหาราชวัง วัดพระแก้ว
พระบรมมหาราชวัง ได้สร้างขึ้นพร้อมๆกับการสร้างกรุงเทพมหานครใน พ.ศ. 2325 พระบรมมหาราชวัง ได้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันออก พระบรมมหาราชวัง เป็นพระราชวังที่สำคัญที่สุดของกรุงรัตนโกสินทร์ โดยเป็นทั้งที่ประทับของพระมหากษัตริย์และเป็นที่เสด็จออกว่าราชการเพื่อการบริหารประเทศ ในพระบรมมหาราชวังมีหมู่พระที่นั่งต่าง ๆสร้างขึ้นด้วยความประณีตบรรจงงดงามมาก นับเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่เราชาวไทยทุกคนควรภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนั้นภายในพระบรมหาราชวัง ยังมีวัดพระศรีรัตนศาสดารามเป็นวัดประจำพระราชวัง ประดิษฐานพระแก้วมรกต พระพุทธ-รูปคู่บ้านคู่เมืองของไทย. ปัจจุบัน พระบรมมหาราชวังเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับที่ 16 ของโลก โดยมีผู้เข้าเยี่ยมชมในปี พ.ศ. 2549 เป็นจำนวนถึง 8,995,000 คน พระบรมมหาราชวัง ความงามตระการตา และเป็น สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ที่เคียงคู่ แม่น้ำเจ้าพระยา กรุงเทพมหานคร
สะพานพระราม 8 เป็น สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา แห่งที่ 13 ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีแนวสายทางเชื่อมต่อกับทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณโรงงานสุราบางยี่ขัน เขตบางพลัด บรรจบกับปลาย ถนนวิสุทธิกษัตริย์ ใกล้กับธนาคารแห่งประเทศไทย เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร สะพานพระราม 8 นี้เกิดจากพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 พระองค์มีพระราชดำริให้กรุงเทพมหานครก่อสร้าง สะพาน ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มอีก 1 แห่ง เพื่อบรรเทาการจราจรบนสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้ารองรับการเดินทางเชื่อมต่อระหว่างฝั่งพระนครกับฝั่งธนบุรี และเป็นจุดเชื่อมต่อโครงการพระราชดำริตามแนวจตุรทิศ สะพานพระราม 8 แห่งนี้ ยังเป็นสถาปัตยกรรม อันสวยงาม ตั้งตระหง่าน คู่ แม่น้ำเจ้าพระยา ประดับประดา ด้วยแสงสี มองเห็น เป็น ริ้วสีทอง เหลืองอร่าม ขนาน กับ แม่น้ำเจ้าพระยา สะพานพระราม 8 ยังเป็น สถานที่จัดงานเนื่องวาระพิเศษ ต่าง ๆ อาทิเช่น วันพ่อ วันแม่ วันลอยกระทง และ วันเฉลิมฉลอง ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ เป็นประจำ ทุก ๆ ปี ณ สะพานพระราม 8
สะพานพระพุทธยอดฟ้า หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า สะพานปฐมบรมราชานุสรณ์เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่เชื่อมการคมนาคมติดต่อระหว่างฝั่งพระนครกับฝั่งธนบุรีของกรุงเทพมหานคร ที่ปลายถนนตรีเพชร แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กับปลายถนนประชาธิปก แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี สะพานพระพุทธยอดฟ้า เป็นสะพานที่สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) เมื่อปี พ.ศ. 2472 เนื่องในโอกาสสถาปนากรุงเทพมหานครครบ 150 ปี และโปรดเกล้าฯ ให้มีพระราชพิธีฉลองพระนครครบ 150 ปี.สะพานพระพุทธยอดฟ้า เป็นอนุสรณ์ถึงความรำลึกในพระกรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ผู้ทรงสถาปนากรุงเทพมหานคร
- โรงแรม 5 ดาว,ไอคอนสยาม ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
ความสวยงาม ประดับประดาแสงสี ริมน้ำเจ้าพระยา ของ ไอคอนสยาม และ โรงแรมหรู 5 ดาว เช่น โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน โรงแรมแมนดาริน โอเรียลเต็ล โรงแรมเพนนินซูลา โรงแรมแชงกรี-ลา
- เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์
เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นสถานที่ขนาดใหญ่ที่แรกของกรุงเทพฯ ที่รวมแหล่งช้อปปิ้ง อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว กิจกรรมต่าง ๆ ภายในสถานที่เดียวกัน ภายใต้วัฒนธรรมที่แข็งแกร่งนั่นคือสิ่งที่ทำให้แตกต่างจากห้างสรรพสินค้าอื่น ๆ ที่ยังคงความสมดุลระหว่างประเพณีดั่งเดิมและความทันสมัย เป็นสถานที่ ท่องเที่ยวยอดฮิต ทั้งคนไทย และ ต่างชาติ ต่างมาเยือนที่ เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์ แห่งนี้มิขาดสาย